วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

"กิตติรัตน์" แจง "กกต." กู้เงินจำนำข้าว ยันไม่เกิดหนี้ใหม่ผูกพันรัฐบาลอนาคต



  

21 ม.ค. 57 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกโดมบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเชิญนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มาชี้แจงกรณีที่รัฐบาลเสนอแผนบริหารหนี้สาธารณะโดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือกปี 2557 จำนวน 1.3 แสนบ้านบาท ซึ่ง กกต.ต้องพิจารณาว่า การกู้เงินดังกล่าวจะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (3) ซึ่งเป็นเรื่องของการดำเนินโครงการที่อาจมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่

นายกิตติรัตน์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการชี้แจงว่า ตามที่กระทรวงการคลังมีหน้าที่ในการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ เราก็เสนอให้ ครม.รับทราบและอนุมัติ แต่เนื่องจากมี พ.ร.ฎ.ยุบสภา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสว่าการดำเนินการตรงนี้ไม่มีอะไรเคลือบแฝงขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ก็เสนอเรื่องให้ กกต.รับทราบและพิจารณา ตนก็มาชี้แจงให้ กกต.เห็นแง่มุมต่างๆ ขอยืนยันว่าในมุมของกระทรวงการคลังเราต้องดำเนินการไปตามมติ ครม.ก่อนยุบสภา เรื่องข้าวเป็นหนึ่งในหลายๆ เรื่อง แต่ทั้งหมดทุกเรื่องได้มีการอนุมัติโดย ครม.ไว้ก่อนแล้ว เรื่องที่จะดำเนินการเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่เกิดเป็นภาระหนี้ใหม่ไปผูกพันรัฐบาลในอนาคต

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า เรื่องข้าวเป็นการกู้เงินมาเพื่อชำระข้าวที่เรารับจำนำไว้แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ไปก่อภาระผูกพันใหม่ โดยมีการรับจำนำตั้งแต่เดือน ก.ย. 2556 มีการออกใบประทวนตั้งแต่เดือน ต.ค.2556 มีการชำระค่าจำนำข้าวไปแล้วจำนวนหนึ่งแล้ว เมื่อมีการยุบสภาความผูกพันที่มีต่อเกษตรกรที่เราออกใบประทวนไปแล้วซึ่งมีสิทธิ์นำข้าวมาจำนำตามใบประทวนต่างๆ รัฐก็มีหน้าที่จ่ายค่าจำนำตรงนี้ ขอเรียนว่า เป็นเงินที่จะจ่ายตรงผ่านบัญชีเกษตรกร ดังนั้นการดำเนินการเชื่อว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ไม่มีอะไรที่ขัดต่อหลักการของรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้

"ก็เอาแง่มุมที่กระทรวงการคลังมีหน้าที่จัดหาวงเงินมาเพื่อชำระการจำนำข้าว ผมคงชี้แจงตรงนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นใดนั้นมีหน่วยงานอื่น เช่น ป.ป.ช. ดูเรื่องอยู่ ก็ให้หน่วยงานเหล่านั้นทำหน้าที่ไป เข้าใจว่ากระทรวงพาณิชย์ก็ได้ชี้แจงไปว่าส่วนที่ดำเนินการขายผ่านจีทูจี และรัฐวิสาหกิจของประเทศที่มีการตกลงกันนั้น ก็ว่ากันไปแต่ละกรณี เพียงแต่ว่าเงินค่าจำนำข้าวเรารับข้าวจากชาวนามาแล้ว เราก็มีหน้าที่จ่ายเงินให้เขา ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระใหม่ให้กับประเทศ"

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เราดูแลชาวนามาก ซึ่งอาจถูกมองว่าใช้เงินจำนวนมากไปดูแลชาวนา ความจริงไม่ว่ารัฐบาลชุดใดก็ใช้เงินดูแลชาวนาทั่วประเทศ รวมถึงรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งภาระที่ส่งต่อข้ามมารัฐบาลใหม่ รัฐบาลชุดนี้ก็ดูแลต่อ ซึ่งจะตั้งงบประมาณไปปลดภาระเก่าลง การที่จะมีงบประมาณไปดูแลคนทั่วประเทศ อย่างเมืองหลวงเราดูแลหลายหมื่นล้านเรื่องระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ดังนั้นในแง่การจะใช้งบประมาณดูแลด้านต่างๆ ที่จะต้องทำกัน ตนก็ต้องชี้แจงให้ กกต.เกิดความสบายใจ ก็ต้องรีบทำรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่รับจำนำข้าวมาต้องใช้เวลาบ้างในการตรวจสอบ ซึ่งมีข้อติดขัดหลายประการ เช่น การจะใช้งบประมาณประจำปีตั้งแต่ 1 ต.ค. 56 ยังใช้ไม่ได้เพราะมีการร้องเรียนต้องไปผ่านศาลรัฐธรรมนูญก่อน ดังนั้นเงินที่จะได้จากงบประมาณก็ช้าไป เมื่อมีการจะดำเนินการทางกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณก็ถูกปิดล้อมเกือบ 3 สัปดาห์ การประสานงานทำด้วยความยากลำบาก ในช่วงต้นสามารถจ่ายเงินไปได้จำนวนไม่น้อยประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาท

นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่จะต้องดำเนินการกันต่อขอเรียนว่า ด้วยความจำเป็นทางการเมือง ตนไม่เข้าใจเรื่องนี้มาก คือ พรรคฝ่ายค้านลาออกยกพรรค เป็นเหตุให้นายกฯคืนอำนาจให้ประชาชน ดังนั้นการยุบสภาทำให้มาตรา 181 มีเข้ามามีบทบาท แต่สิ่งที่ตนได้ชี้แจงไปคือ เรื่องที่จะต้องกู้เงินมาคืนเงินของรถไฟที่ครบกำหนด หรือกู้เงินมาเพื่อชำระการจำนำข้าว การดำเนินการส่วนอื่นที่อยู่ในแผนหนี้สาธารณะล้วนดำเนินการมาก่อนการยุบสภาทั้งสิ้น และเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามหน้าที่ที่ ครม.มีมติไว้ ไม่ได้สร้างภาระใหม่ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวนาอยากให้ทุกฝ่ายเห็นใจเพราะชาวนาก็นำข้าวมาจำนำแล้ว ความล่าช้าด้วยเหตุผล 2-3 เรื่อง ของความสับสนวุ่นวายทางการเมืองตนก็ได้เรียนไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็อยากจะชี้แจงความโปร่งใสให้ กกต.ได้ทราบว่า ไม่ได้ไปแอบทำเรื่องใหม่ ไม่ได้ไปแอบทำโครงการรับจำนำข้าวใหม่ แต่เป็นโครงการที่ได้อนุมัติแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย. 56 ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปลดภาระหนี้เดิมเกษตรกรที่เราต้องจ่ายเงินเขา ดังนั้นหวังว่าน่าจะได้รับความชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ กกต.กำลังประชุม ได้มีเจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เดินทางมาที่บริเวณตึกโดมที่เป็นสถานที่ประชุม เพื่อรับฟังการชี้แจงเกี่ยวกับการกู้เงินในโครงการรับจำนำข้าว โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่าทำงานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มา 28 ปีแล้วเพิ่งรู้เมื่อเช้าว่ากกต.จะมาประชุมที่นี้จึงได้มาเป่านกหวีดเพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยที่จะนำเงินของธนาคารออมสินซึ่งเป็นเงินฝากไปให้รัฐบาลจ่ายหนี้ค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา การเดินทางมาเป่านกหวีดครั้งนี้เป็นการแสดงออกส่วนตัวไม่ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ



ที่มา: http://www.komchadluek.net

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา