วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

ไฟไหม้กระเป๋าเดินทางคาสายพานเช็คอินบางกอกแอร์เวย์-สุวรรณภูมิ ‘ชัชชาติ’เชื่อไม่ใช่ก่อการร้าย




เมื่อเวลาประมาณ 06.15 น.วันที่ 28 ม.ค. เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้กระเป๋าสัมภาระ ในขณะที่เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าวนำเข้ามาขึ้นสายพานเช็คอินที่เคาเตอร์เช็คกระเป๋าเดินทางของของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่พนักงานและเจ้าหน้าที่สามารถช่วยกันใช้ถังดับเพลิงเคมีช่วยกันดับเอาไว้ได้ 

ตรวจสอบพบว่าภายในกระเป๋าใบดังกล่าวมีปุ๋ยยูเรียบรรจุอยู่ภายใน มีนายพงศ์กานต์ โฆษิตธรรมนันท์ เจ้าของ บริษัท พงศ์กานต์ อลิอันซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงอาหารเสริม และเป็นเจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าว ที่เตรียมจะเดินทางไปประเทศกัมพูชา ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่PG 931 ( กรุงเทพ -พนมเปญ ) เครื่องจะขึ้นเวลา 08.35 น. แต่นายพงศ์กานต์ ได้เข้ามาเช็คอินที่เคาน์เตอร์ในเวลาประมาณ 06.15 น. โดยจะนำกระเป๋ามาโหลดขึ้นเครื่องโดยอ้างว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ แต่มาเกิดเพลิงลุกไหม้เสียก่อน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สายการบินได้นำถังดับเพลิงระงับเหตุทันที ขณะนี้ได้มีการเคลียร์พื้นที่และเปิดบริการเคาเตอร์ที่เกิดเหตุได้ตามปกติแล้ว

สอบถาม นายพงษ์กานต์ อ้างว่า กระเป๋าใบดังกล่าว เป็นของนายเสริมยศ นิติเสถียร ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน ปุ๋ยอยู่ที่จังหวัดลพบุรี เพื่อนของตน ได้ฝากให้ตนนำไปให้พรรคพวกที่พนมเปญ โดยที่ตนเองไม่ทราบเลยว่าที่อยู่ในกระเป๋าเป็นปุ๋ยยูเรีย เนื่องจากนายเสริมยศ เพื่อนตนอ้างว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ตนจึงได้ยอมรับเอากระเป๋าใบดังกล่าวขึ้นเครื่องไปให้พรรคพวกของนายเสริมยศ ที่กรุงพนมเปญ เนื่องจากตนต้องไปทำธุระที่กรุงพนมเปญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายเสริมยศ มากนัก และจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการมาทำการเก็บรายละเอียดกระเป๋าใบดังกล่าวที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 06.17 น.เกิดเหตุการณ์กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารเกิดไฟลุกไหม้ที่บริเวณเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row F12ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเห็นเหตุการณ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ. เข้ามาระงับเหตุได้ในทันที และขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวสามารถกลับมาให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติแล้ว

นางระวีวรรณ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่ากระเป๋าสัมภาระเป็นของผู้โดยสารชื่อว่า นายพงศ์กานต์ โฆษิตธรรมนันท์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจบัตรโดยสารเพื่อเดินทางด้วยสายการบินบางกอก แอร์เวย์เที่ยวบินที่ PG 931 ซึ่งจะเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยที่ภายในกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารมีการบรรจุสารเคมีชนิดน้ำและผง ซึ่งเป็นปุ๋ยหัวเชื้อตัวอย่าง 

โดยสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าอาจทำปฏิกิริยากันจนเกิดประกายไฟขึ้นได้ ซึ่งจากเหตุดังกล่าวสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยกับสายพานเครื่องชั่งกระเป๋าสัมภาระและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค ณ เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารดังกล่าว และทสภ.ได้ดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคต่างๆ เรียบร้อยแล้วและสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้วภายในเวลา 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทสภ.อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมาตรวจดูจุดเกิดเหตุว่า เป็นเหตุเพลิงไหม้กระเป๋าเดินทางบนสายพานลำเลียง ระหว่างเช็คอินที่เคาท์เตอร์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จากการตรวจสอบ พบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง และ การก่อวินาศกรรมแต่อย่างใด เป็นเพียงการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้โดยสาร ที่แพ็ควัตถุสารฟอสฟอรัสคล้ายปุ๋ยเข้าไปในกระเป๋าเดินทาง ส่วนการรักษาความปลอดภัยภายในสนามบินนั้น หากกระเป๋าดังกล่าวไม่เกิดเพลิงไหม้ที่สายพานเช็คอินก่อน ก็ไม่สามารถที่จะโหลดขึ้นเครื่องบินได้อยู่แล้วเพราะทางสนามบินมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายขั้นตอน

 จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเป็นกระเป๋าของผู้โดยสารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG931 โดยเจ้าของกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นคนไทยได้บรรจุสินค้าที่มีสารฟอสฟอรัสเพื่อนำไปแสดงให้ลูกค้าที่ประเทศกัมพูชาชม แต่เนื่องจากมีความร้อนและเกิดการเสียดสีทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมีจนกระทั่งเกิดไฟไหม้ขึ้น 
 
 “ถือว่าโชคดีที่เกิดเรื่องขึ้นก่อนที่กระเป๋าจะลงไปอยู่ใต้ท้องเครื่องบิน มิฉะนั้นจะอันตรายมากๆ หากเกิดไฟไหม้ขณะเครื่องกำลังบินอยู่” รมว.คมนาคม กล่าว

ที่มา  khaosod.co.th

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา