รวมพลคนเสื้อแดง

ออกมาเพื่อรักษาประชาธิประไตย

บรรยากาศข้างในและข้างนอก

มวลชนคนรักประชาธิประไตยตัวจริงเสียงจริง

คนเสื้อแดง

คนรักประชาธิประไตยที่มีหัวใจเดียวกัน

พี่น้องรักประชาธิประไตย

พี่น้องที่รักประชาธิประไตยจะลำบากแค่ไหนก็อยู่ได้ทุกที่ เราอยู่ด้วยความรัก พี่น้องทุกคนคือครอบครัวเรา

รวมรูปพี่น้องเสื้องแดง

รวมรูปพี่น้องเสื้อแดง พี่น้องที่รักประชาธิประไตย พี่น้องร่วมอุดมการเดียวกัน.

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตึกรพ.รามาบางพลี ถล่มทับคนงาน เจ็บ-ตายเพียบ


เกิดเหตุอาคารของ รพ.รามาฯ อ.บางพลี ถล่ม ทับคนขณะกินข้าว เสียชีวิต-บาดเจ็บเพียบ จนท.เร่งช่วย
 
 
วันนี้ (25 ก.พ. 57) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เกิดเหตุอาคารกำลังก่อสร้างของโรงพยาบาลรามาธิบดี อ. บางพลี จ.สมุทรปราการ ถล่มลงมา คานปูนเชื่อทางเดินระหว่างอาคารพัง ทำให้แผ่นปูนหล่นทับคนงานระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน  มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิต ซึ่งติดอยู่ใต้ซากปรังหักพังอย่างต่อเนื่อง 
 
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. มีรายงานมาว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย โดยเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 7 ราย และเสียชีวิตภายหลังจากการนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาล 4 ราย  บาดเจ็บ 17 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการยุติการค้นหาแล้ว 
 
 
ขอบคุณภาพจาก Twitter@fm91trafficpro

ผบ.ตร.เผยรอทบทวนใช้พ.ร.บ.มั่นคง

ผบ.ตร.เผยรอทบทวนใช้พ.ร.บ.มั่นคง


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย หน่วยความมั่นคง เตรียมพิจารณากลับไปใช้ พ.ร.บ.มั่นคง คุมม็อบ หลังเกิดเหตุรุนแรงรายวัน ยืนยัน จับอดีตหน่วยซีล ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง
 
 
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคง อยู่ระหว่างพิจารณา
กลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการดูแลการชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ หลังมีการก่อเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และลุกลามไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจากการข่าว พบว่า กลุ่มที่ก่อเหตุในขณะนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุช่วงการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และยืนยันว่า ตำรวจจะพยายามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ยอมรับว่า ต้องใช้เวลา เพราะผู้ก่อเหตุบางส่วนเคลื่อนไหวออกนอกประเทศไปแล้ว
 
 
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการจับกุมอดีตหน่วยซีล กองทัพเรือ ขนอาวุธสงคราม ที่ จ.ระยอง ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุทางการเมือง ขณะที่กรณีการลอบยิงและเสียงดังคล้ายระเบิดที่แยกศาลาแดง พื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. สีลม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ตำรวจนครบาลเข้าไปดูแลคดีนี้แล้ว และกำชับให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจค้นอาวุธให้มากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ใกล้เคียงกับพื้นที่การชุมนุมทุกเวที
 
ที่มา :  News   Center /  INN 
ภาพ :  VoiceTV 
 

กกต.ไฟเขียวงบกลาง712ล้านจ่ายหนี้จำนำข้าว

กกต.ไฟเขียวงบกลาง712ล้านจ่ายหนี้จำนำข้าว


คณะกรรมการการเลือกตั้งอนุมัติงบกลาง 712 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีขอมาเพื่อนำไปชำระหนี้ในโครการจำนำข้าว โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยืนยันการเจรจาหาทางออกเป็นมติของ กกต.
 
 
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่า ที่ประชุมกกต. มีมติเห็นชอบอนุมัติงบกลางวงเงิน 712 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปชำระหนี้แก่เกษตรกรในโครงการจำนำข้าว ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอเรื่องมา โดย กกต.เห็นว่าเป็นงบกลางที่มาจากปี2556 ไม่ใช่งบกลางปี2557 หากรัฐบาลมีการเสนอเรื่องกรณีขอให้ กกต.อนุมัติงบกลางวงเงิน2หมื่นล้านบาทเข้ามาอีก ทาง กกต.จะต้องดูเป็นกรณีไป
 
นายสมชัย ยอมรับการเจรจาระหว่างพระพุทธะอิสระกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นมติของ 5 กกต.ที่มอบหมายให้ตนเป็นผู้ประสานเพื่อหาทางในการหาทางออกให้สังคม พร้อมยืนยันการเจรจาจะไม่มีปัญหา แม้จะมีการเปิดเผยการเจรจาจากพระพุทธะอิสระก็ตาม ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะฟ้องอาญา กกต.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั่วประเทศนั้น ขอให้ประธาน กกต.เป็นผู้ให้คำตอบแทน
 
 
นายสมชัย ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ ทางกกต.ได้เชิญผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีมาชี้แจง กกต.กรณีนายกรัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในภาคเหนือและภาคอีสานภายหลังยุบสภาว่ามีการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่
 
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า ทาง กกต.จะมีการพิจารณาคำร้องคัดค้าน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้ง 3 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2556  กรณีขนคนไปลงคะแนนในที่เลือกตั้งกลาง อำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด


'สุเทพ' ย้ำสู้เพื่ออนาคตของชาติ จี้ตร.เร่งหามือระเบิดมาดำเนินคดี

'สุเทพ' ย้ำสู้เพื่ออนาคตของชาติ จี้ตร.เร่งหามือระเบิดมาดำเนินคดี


'สุเทพ' โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ตำรวจสืบหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุปาระเบิดทำให้มีเด็กเสียชีวิต 3 คนมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมย้ำการต่อสู้ครั้งนี้ สู้เพื่ออนาคตของชาติและประเทศไทย ไม่ได้ต่อสู้เพื่อแสวงหาอำนาจให้กับตนเอง 
 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วันนี้ (25 ก.พ.) เรียกร้องให้ตำรวจสืบหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุปาระเบิดทำให้มีเด็กเสียชีวิต 3 คนมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมย้ำการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เราสู้เพื่ออนาคตของชาติและประเทศไทย รายละเอียดทั้งหมดดังนี้
 
 
ผมเชื่อว่าพี่น้องทุกคนต้องรู้สึกเศร้าใจ เสียใจ ที่เกิดเหตุนี้ ผมคงไม่สามารถไปเรียกร้องให้ ทักษิณ ให้ยิ่งลักษณ์ ออกมารับผิดได้ แต่ผมอยากจะขอเรียกร้องไปถึงพี่น้องข้าราชการ ตำรวจที่ดีๆผมขอเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเด็กๆทั้ง 3 คน เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศต้องการเห็น ตำรวจที่ยังมีสำนึก มีความดีในหัวใจ สืบหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อที่วิญญาณของเด็กทั้ง 3 คนจะได้รับการปลอบประโลม พวกเรามวลมหาประชาชนได้ต่อสู้อย่างสันติ ไม่เคยใช้อาวุธ ไม่เคยใช้ความรุนแรง 
 
เราต่อสู้อย่างเปิดเผย เพื่อประเทศ เราไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เราสู้เพื่ออนาคตของชาติและประเทศไทย ผมและมวลมหาประชาชนบอกมาตั้งแต่ต้นว่า เราไม่ได้ต่อสู้เพื่อแสวงหาอำนาจให้กับตนเอง เราได้บอกแล้วว่าเมื่อระบอบทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ออกไปเราจะปฏิรูปประเทศเพื่อให้มีรัฐบาลที่มาจาก ประชาชน 
 
ผมจึงต้องเรียกร้องพี่น้องข้าราชการ ตำรวจเมื่อท่านตัดสินใจมาเป็น ตำรวจแล้วมารับใช้ ประชาชนท่านไม่ได้ตั้งใจมาเป็นขี้ข้าใคร แต่เดี๋ยวนี้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจไม่เคยจับผู้ร้ายได้ไม่ว่าจะเกิดที่ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ใน กทม. แต่เมื่อคนร้ายได้กระทำการด้วยความบังอาจ ตำรวจเพิกเฉยต่อไปไม่ได้ ไม่ว่าใครทำผิด ตำรวจต้องจับคนร้ายมาดำเนินคดีทั้งนั้น ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนธรรมดา หรือ จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม

 

'นิวัฒน์ธำรง' เชื่อครม.อนุมัติงบฯ 2 หมื่นล. จะไม่ถูกขัดขวาง

'นิวัฒน์ธำรง' เชื่อครม.อนุมัติงบฯ 2 หมื่นล. จะไม่ถูกขัดขวาง


นิวัฒน์ธำรง เชื่อ ครม.อนุมัติงบกลาง 2 หมื่นล้าน จะไม่ถูกขัดขวาง เผยจีนสนใจซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน เตรียมส่งรายละเอียดซื้อขายแบบจีทูจี ภายใน 2-3 สัปดาห์ 
 
 
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบประมาณกลางเพื่อใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน จำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือชาวนา ในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนา ซึ่งจะต้องการนำเสนอให้ กกต.พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป และเมื่อ กกต.พิจารณาตอบกลับมายังรัฐบาล ก็จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณนี้ได้เลย โดย ธ.ก.ส. ก็จะนำเงินไปจ่ายให้กับชาวนาตามลำดับใบประทวนที่มาก่อนและหลัง และเงินก้อนนี้เมื่อรัฐบาลหาเงินมาได้ ก็จะรีบนำเงินไปคืนทันที ทั้งเงินที่ได้จากการระบายข้าว และเงินที่กระทรววงการคลังเตรียมดำเนินการกู้อีกกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการถึง 2 เดือน ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่า การใช้งบฯ กลางดังกล่าวจะไม่ถูกขัดขวางเหมือนที่เคยเกิดขึ้น 
   
 
ขณะที่มาตรการช่วยเหลือชาวนาเบื้องต้น คณะรัฐมนตรี ก็ยังมีการพิจารณาให้ ธ.ก.ส.บรรเทาความเดือดร้อนชาวนาเบื้องต้นด้วยการไม่ทวงหนี้ และขยายเวลาชำระหนี้ โดย ธ.ก.ส.จะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวนาต่อไป ว่ายังมีเงินในกองทุนที่สามารถให้ชาวนากู้ยืมได้ 
   
 
นายนิวัฒน์ธำรง ยังเปิดเผยว่า นายหนิงฟู่ขุย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เข้าพบ พร้อมแสดงเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือชาวนาไทย โดยจีนจะสั่งซื้อข้าวจากไทยปีละ 1 ล้านตัน ซึ่งรัฐบาลไทยก็จะไปจัดเตรียมรายละเอียดการซื้อขายแบบจีทูจี (รัฐต่อรัฐ) ภายใน 2-3 สัปดาห์ ซึ่งยอมรับว่าการซื้อขายครั้งนี้แม้เปลี่ยนรัฐบาลก็จะไม่มีปัญหา และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องส่งให้ กกต.พิจารณา เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลตกลงซื้อขายเอง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการแก้ปัญหารับจำนำข้าวของรัฐบาลมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น

'เอกนัฏ' โต้ 'วีรพัฒน์' ยันไม่ได้บิดเบือน

'เอกนัฏ' โต้ 'วีรพัฒน์'  ยันไม่ได้บิดเบือน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วันนี้ (25 ก.พ.) กรณีที่ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าตนเอง โพสต์ข้อความเกี่ยกับการบิดเบือน ยืนยันไม่ได้บิดเบือน  
 
ขออนุญาตตอบอาจารวีรพัฒน์ครับ ก่อนอื่นไม่มีความรู้สึกไม่ชอบเป็นการส่วนตัวแต่ในฐานะแกนนำผมมีหน้าที่ที่จะต้องนำเสนอข้อเท็จจริงประกอบกับเหตุผลไม่ให้ความจริงถูกนำไปบิดเบือนโดยกลุ่มคนที่มีอคตินะครับ
 
1) คนเขียนกับคนพูดคนเดียวกันครับ ไม่มีการบิดเบือน พูดความจริงอย่างเปิดเผยทั้งหมดเพียงแต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่อาจารพยายามใช้วาทกรรมประกอบกับการเผยแพร่ข้อมูลซึ่งเป็นการชี้นำที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ผู้ชุมนุมถูกกระทำและคนผิดคือผู้ร้าย การแสดงออกลักษณะนี้ไม่เป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมครับ ในภาพรวมผมคิดว่าอาจารเช่นเดียวกับรัฐบาลให้นํ้าหนักกับการประณามและจับกุมตัวคนร้ายน้อยไปมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายด้วยอาวุธสงครามโดยกองกำลังติดอาวุธที่หวังผลเอาชีวิตผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ และการตั้งใจละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพิกเฉยต่อการดำเนินการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดถือเป็นการให้ท้ายในทางอ้อม เชื่อผมเถอะครับถ้าคิดจะป้องกันการกระทำที่โหดเหี้ยมอุกอาจขนาดนี้เปลี่ยนสถานที่ก็ใช้ว่าจะปลอดภัย มีอย่างเดียวคือต้องจับคนร้ายมาให้ได้ถึงจะหยุดยั้งเหตุร้ายได้ครับ
 
2) เรื่องตำรวจ ผมไม่ได้ต่อว่าตำรวจทั้งองค์กรแต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บางส่วนไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ที่ผ่านมา:-
- เจ้าหน้าที่จับคนร้ายที่ก่อเหตุร้ายกับประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลไม่ได้เลย ตั้งแต่ รามคำแหง สนามกีฬา บรรทัดทอง สะพานชมัยฯ ราชดำเนิน อนุสาวรีชัยสมรภูมิ 5แยกลาดพร้าว วัดศรีเอี่ยม ยังไม่รวม ศาล ที่พักแกนนำ นักปราศรัย บ้านคุณประมน คลินิก นพ. นิรันดร์ เป็นต้น ผมไม่เชื่อครับว่าไม่ใช้เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีความสามารถ
- การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงมาโดยตลอด จำได้มั้ยครับกรณี ชายชุดดำบน ก.แรงงาน ก็ด่วนสรุปว่าเป็นผู้ชุมนุม แต่ที่สุดก็จำนนต่อหลักฐานต้องยอมรับว่าเป็นตำรวจ
- หน้าสโมสรกองทัพบก ตำรวจแฝงตัวเข้ามาพร้อมอาวุธปืนและระเบิดปิงปอง แต่ถูกจับได้ อาจารลองไปสืบประวัติตำรวจคนนี้ด้วยนะครับจะพบว่าใครอยู่เบื่องหลัง
 
แต่พวกเราก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่นะครับขอเพียงแต่ให้เข้ามาอย่างเปิดเผยใส่เครื่องแบบไม่ติดอาวุธ ที่สำคัญคือการป้องเหตุหรือการจับกุมสามารถทำได้โดยไม่ต้องเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมด้วยซํ้าจึงไม่อยากให้นำไปใช้เป็นข้ออ้าง
 
3) ผมได้ทิ้งตำแหน่ง เอาชีวิตและอนาคตมาเสี่ยงต่อสู้เคียงข้างประชาชน ต่อสู้กับระบอบทรราชที่นำอำนาจไปกระทำการฉ้อฉล เราต่อสู้ด้วยความอดทนในแนวทางที่ถูกต้อง ยึดหลักสันติและไม่มีอาวุธ ถ้าเอาชีวิตที่พี่น้องของเราต้องเสียไปมาแลกกับชีวิตผมได้ก็ยอม ผมก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับพี่น้องของเราครับ ที่บรรทัดทองผมก็อยู่หางจากระเบิดเพียงไม่กี่สิบเมตร พวกเราตัดสินใจปรับยุทธศาสตร์โดยคำนึงถึงหลายปัจจัย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนผมไม่กลัวตายครับ แต่คุณแม่ผม น้องสาวผมก็อยู่ในที่ชุมนุมกับพี่น้องของเราทุกคน ผมไม่เอาชีวิตคนเหล่านี้มาเสี่ยงเพื่อความสะใจหรอกครับ แล้วก็ไม่ต้องห่วงอนาคตผม ห่วงอนาคตของชาติดีกว่า ชีวิตผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งทางการเมืองครับ อยู่ตรงไหนก็ได้ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
 
4) ผมเป็นคนรับผิดชอบต่อการให้ข้อมูลครับ ต่างจากพวกรุ่นใหญ่หลายคนที่ไม่กล้ารับผิดเวลาผิดพลาด สู้ด้วยความจริงมาโดยตลอด การแสดงความคิดเห็นไม่มีเจตนาบิดเบือนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและคิดว่าคงไม่มีอะไรที่จะต้องขอโทษ
 
แต่ผมก็ขอขอบคุณอาจารที่ตอบโต้อย่างเปิดเผยผมเคยชื่นชมความรู้ความสามารถของอาจารครับ แต่อยากให้นำความรู้ความสามารถของอาจารมาใช้ให้เป็นประโยชน์ดูแลรักษาบ้านเมืองของเรา สนับสนุนคนดี ไม่ปกป้องคนเลว ผมก็ทราบมาว่าอาจารก็เคยวิจารณ์ระบอบทักษิณเช่นกัน ผมเข้าใจว่าบางทีอาจารและหลายท่านอาจจะคิดต่างและผมเองก็ยินดีรับฟังเพราะศัตรูของประชาชนตัวจริงคือคนอย่างคุณทักษิณ แต่หวังว่าอาจารจะยึดมั่นในความเป็นนักวิชาการอิสระวิจารณ์อย่างเป็นธรรมปราศจากอคติเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองนะครับ
 
ด้วยความเคารพครับ

สื่อนอกมองการเมืองไทย

สื่อนอกมองการเมืองไทย


บทความจาก Voice Of America กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในไทย มาจากสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล และฝ่ายที่ต้องการล้มอำนาจ โดยยกเอาเรื่องการทุจริตมาโจมตีกัน

บทความจาก Voice Of America กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในไทย ว่าเกิดจากกลุ่มทางการเมืองที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย และฝ่ายรัฐบาลถูกกลุ่มต่อต้านกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาจากป.ป.ช. ในเรื่องดังกล่าว แต่ต่อมานางสาวยิ่งลักษณ์และคณะได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ รวมไปถึงเหตุการณ์จัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่เกิดความวุ่นวายและหลายพื้นที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ทำให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ยังคงต้องรักษาการและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป 

ส่วนตอนนี้ท้องถนนทั่วกรุงเทพมหานคร เต็มไปด้วยประชาชนผู้ต้องการให้นายกลาออกจากตำแหน่งรักษาการพร้อมทั้งคณะรักษาการทั้งหมด จนเป็นที่มาของเหตุการณ์ปะทะนองเลือดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง กลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้มีการศึกษา และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง กลุ่มคนเหล่านี้มีความคิดว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้ชาวนาไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ 

อีกทั้งยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนที่ออกมาขับไล่รัฐบาล เพราะต้องการกำจัดระบบการปกครองที่พวกเขาเรียกกันว่า ระบอบทักษิณ ให้หมดไปจากประเทศด้วย ด้วยความคิดว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณื ชินวัตร รับคำสั่งจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร โดยเชื่อจากข้อมูล การจัดอันดับประเทศที่มีการคอร์รัปชั่น เมื่อปี 2555 ไทยถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 88 จาก 177 ประเทศ แต่เมื่อปี 2556 ไทยถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 102

แต่จากการสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555 ระบุว่า ร้อยละ 63 รับได้กับการคอร์รัปชั่นของรัฐบาล ตราบใดที่พวกเขายังได้รับประโยชน์อยู่

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

'วีรพัฒน์' ฉะ 'เอกนัฏ' โพสต์บิดเบือนบทสนทนาในรายการเจาะข่าวเด่น

'วีรพัฒน์' ฉะ 'เอกนัฏ' โพสต์บิดเบือนบทสนทนาในรายการเจาะข่าวเด่น



'วีรพัฒน์' นักกฎหมายอิสระ เปิดคลิปแฉ 'เอกนัฏ' โพสต์บิดเบือน ระบุตนเองที่ไม่พูดถึงผู้ร้ายซักคำ ไม่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จับผู้ร้าย แต่กลับแถโทษผู้ชุมนุมว่าชุมนุมผิดที่ผิดทาง เป็นการบิดเบือนพูดเท็จให้คนเข้าใจผิดตนเอง 

ล่าสุด คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ได้ออกมา "บิดเบือน" สิ่งที่ผมกับคุณเอกนัฏได้สนทนากันในรายการคุณสรยุทธ์ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา
 
หลังรายการจบไปเพียงหนึ่งวัน คุณเอกนัฏ ได้เขียนเฟสบุ๊ค "บิดเบือน" ผมว่า ในรายการคุณสรยุทธ์ ผมไม่พูดถึงผู้ร้ายซักคำ ไม่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จับผู้ร้าย แต่กลับแถโทษผู้ชุมนุมว่าชุมนุมผิดที่ผิดทาง ฯลฯ
 
ผมขอยกหลักฐานที่แสดงพฤติกรรมการบิดเบือนของคุณเอกนัฏ ที่พูดเท็จให้คนเข้าใจผมผิด โดยผมจะยกคำพูดผมมาอธิบายพิสูจน์จากคลิปนี้ ดังนี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=KSdKT7YQBDM
 
1. ในคลิปนี้ ผมได้ตำหนิรัฐบาล และเรียกร้องการจับตัวคนร้าย พูดตั้งแต่ต้นรายการยันท้ายรายการ
 
1.1 ช่วงต้นรายการ คุณสรยุทธ์ให้คุณเอกนัฏเป็นฝ่ายพูดก่อน นาทีที่ 5.00 คุณเอกนัฏก็ได้เรียกเจ้าหน้าที่รัฐให้จับตัวคนร้าย ต่อมา นาทีที่ 5.30 ผมได้กล่าวแสดงความปวดร้าวที่มีการทำร้ายประชาชน และได้กล่าวว่า "ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ " ก็ชัดเจนแล้วว่า ผมเห็นด้วยกับคุณเอกนัฏที่เรียกให้เจ้าหน้าที่รัฐให้จับตัวคนร้ายมาลงโทษ ผมไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำคุณเอกนัฏให้ยืดยาว เพราะรายการมีเวลาสั้น และมีประเด็นสำคัญอีกเยอะ 
 
1.2 ช่วงท้ายรายการ นาทีที่ 16.54 ผมก็ยังย้ำอีกครั้งว่า ผมขอตำหนิรัฐบาล ว่าต้องทำหน้าที่ให้ดีขึ้น ในการไปจับตัวผู้ร้ายมา
 
ดังนั้น การที่คุณเอกนัฏมาพูดในหน้าเฟสบุ๊คว่า ผม "ไม่พูดถึงผู้ร้ายซักคำ...ไม่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จับผู้ร้าย" ฯลฯ จึงเป็นการกล่าวเท็จ บิดเบือนคำพูดผม ให้คนอื่นเข้าใจผมผิด เป็นวิธีสกปรกที่ผมไม่คิดว่านักการเมืองรุ่นใหม่จะนำมาใช้หลอกประชาชนกลางวันแสกๆ 
 
2. ตลอดทั้งรายการ ผมไม่เคยโทษผู้ชุมนุม ตรงกันข้าม ผมได้แสดงความห่วงใยต่อผู้ชุมนุม เช่น 
 
2.1 ในนาทีที่ 7.30 ผมได้แสดงความกังวลว่า อาจมีการทำร้ายผู้ชุมนุมอีกในอนาคต จึงเสนอให้มีการย้ายที่ชุมนุมไปในที่ที่มิดชิด และย้ำว่าตำรวจต้องเข้าไปดูแลปกป้องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
 
2.2 เมื่อคุณเอกนัฏ ได้แสดงความไม่สบายใจว่า หากตำรวจเข้ามาตรวจดูแลผู้ชุมนุม จะมีการไม่ไว้ใจกันและตำรวจจะพกระเบิดปิงปองหรือไม่ ผมจึงเสนอต่อในนาทีที่ 11.43 ว่า ก็ให้ผู้ชุมนุมตกลงกับตำรวจ ร่วมมือกันให้ตำรวจยอมให้ผู้ชุมนุมตรวจให้สบายใจว่ามีอาวุธที่ไม่สบายใจหรือไม่ มีนักข่าวถ่ายรูปเดินตามตลอดเวลา จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย
 
2.3 ผมย้ำเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุมอีกหลายครั้ง เช่น นาทีที่ 17.39 เน้นให้ตำรวจเข้ามาตรวจดูความปลอดภัย เทียบตัวอย่างกับสถานที่อื่น ที่มีคนมารวมตัวกันหนาแน่น เช่น สนามกีฬา หรือแม้แต่สถานีรถไฟ ก็ยังมีตำรวจมาตรวจตราดูได้ แล้วเหตุใดในที่ชุมนุม กปปส. ที่คนเยอะ จึงร่วมมือกับตำรวจไม่ได้ ?
 
ดังนั้น การที่คุณเอกนัฏมาพูดในหน้าเฟสบุ๊คว่า ผม "กลับแถโทษผู้ชุมนุม" ฯลฯ จึงเป็นการกล่าวเท็จ บิดเบือนคำพูดผม ใช้วิธีสกปรกอีกเช่นกัน ความจริงแล้ว ข้อเสนอผมตรงไปตรงมา ว่าถ้าผู้ชุมนุมย้ายที่ชุมนุม และร่วมมือกับตำรวจ ผู้ชุมนุม และประชาชนทุกคน ก็จะปลอดภัยมากขึ้น จะเสี่ยงน้อยลง แต่ถ้ายังคงชุมนุมต่อไป แล้วมีการทำร้ายกัน ศพนั้นปลุกขึ้นมาใหม่ไม่ได้
 
ผมถึงบอกปิดท้ายรายการว่า อย่าไปรอให้ หน่วย EOD ต้องไปเก็บหลักฐานหลังเกิดเหตุ แต่เราทุกฝ่าย ทั้ง รัฐบาล ตำรวจ กปปส และผู้ชุมนุม ต้องช่วยกันป้องกันลดความเสี่ยงไม่ให้มีเหตุเกิดครับ
 
ผมขอย้อนถามคุณเอกนัฏ เป็นข้อ ๆ ดังนี้ ถ้าคุณเอกนัฏ แน่จริง และจริงใจ ก็โปรดตอบมาให้ครบทุกข้อ
 
1. ข้อความที่กล่าวเท็จ บิดเบือนผมข้างต้นนี้ คุณเอกนัฏเขียนเองหรือเปล่าครับ ? หรือมีทีมงานเขียนให้ ?
 
2. ถ้าคุณเอกนัฏเขียนเอง แล้วเหตุใดวิธีการพูดจาของคุณเอกนัฏจึงผิดไปเป็นคนละคนจากที่เราพูดคุยกันในรายการเมื่อวาน ในรายการเราเคารพซึ่งกันและกัน แต่พอมาหน้าเฟสบุ๊ค กลับเปลี่ยนเป็นคนละคน แถมยังบิดเบือน เล่าความเท็จ ? หรือว่าที่แสดงออกไปในจอโทรทัศน์ เป็นเพียงการเล่นละคร ?
 
3. ผมพูดชัดเจนทั้งรายการเห็นด้วยกับคุณเอกนัฏเรื่องที่ตำหนิรัฐบาลว่าจับตัวคนร้ายไม่ได้ และผมยังได้แสดงความห่วงใยผู้ชุมนุม แต่ความเห็นผมต่างไปจากคุณเอกนัฏก็แค่ตรงที่ผมเชื่อว่า กปปส. สามารถช่วยตำรวจลดความเสี่ยงและป้องกันความตายได้มากกว่าที่ทำอยู่ โดยการให้ความร่วมมือกับตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย และพิจารณาย้ายไปชุมนุมในที่มิดชิด ผมถามว่า แทนที่คุณเอกนัฏจะเอาเวลามาเล่าความเท็จ ทำไมไม่เอาเวลาไปคุยกับผู้ชุมนุมและตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยเขาละครับ ?
 
4. คุณเอกนัฏรีบร้อน เขียนโดยไม่คิดให้ดี ผิดพลาดเหมือนตอนไปบอกว่าตำรวจทำลูกระเบิดหล่น หรือเปล่าครับ ? ถ้าเช่นนั้น ก็โปรดขอโทษเหมือนที่เคยทำนะครับ
 
สุดท้าย ผมขอบอกคุณเอกนัฏจากใจจริง ผมกับคุณเอกนัฏอายุพอ ๆ กัน เราต่างมีความหวังจะเห็นประเทศชาติและการเมืองที่ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ และผมเองก็มีความหวังจะเห็นคุณเอกนัฏเป็นนักการเมืองน้ำดีรุ่นใหม่ ที่สามารถเป็นความหวังของสังคมไทยต่อไปได้ 
 
แต่วันนี้ ผมคงได้แต่เตือนด้วยความหวังดีว่า คุณสุเทพ กำลังนำอนาคตทางการเมืองทั้งชีวิตของคุณเอกนัฏมาทำลายลงอย่างโหดเหี้ยมและน่าเสียดาย ถ้าคุณสุเทพรักคุณเอกนัฏเหมือนลูกจริง ๆ ผมคิดว่าคุณสุเทพคงไม่ปล่อยให้คุณเอกนัฏทำสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ อนาคตคุณสุเทพ ไม่เหลืออะไรมาก แต่คุณเอกนัฏยังมีศักยภาพอีกมาก ยังมีอนาคตเหลืออีกยาวไกล
 
สิ่งที่คุณเอกนัฏทำอยู่ ตั้งแต่เรื่องแค่บิดเบือนสาดโคลน ไปถึงความผิดพลาดที่ไม่ให้เกียรติชีวิตมนุษย์ เช่น เรื่องการบอกตำรวจทำระเบิดหล่นเอง ไปจนถึงการทำผิดกฎหมายอื่นๆ การเสนอแนวคิดที่ไม่ยอมรับการเลือกตั้ง การไม่รับฟังข้อเสนอของผมให้ลดความเสี่ยงต่อผู้ชุมนุมและประชาชน ถ้าคุณสุเทพลงมือพูดเอง ทำเอง ก็เข้าใจได้ แต่ถ้าคุณเอกนัฏทำแทน จะเป็นตราบาปติดตัวคุณเอกนัฏไปตลอดชีวิต แม้วันหนึ่งคุณเอกนัฏจะอาจกลับมานึกเสียใจภายหลังก็ตาม
 
ผมอยากให้คุณเอกนัฏ กลับมาเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ เลิกวิธีบิดเบือนสาดโคลนแบบนักการเมืองหน้าเดิมๆ มาสู้กันด้วยเหตุผล ความสุขุม กลับมาสู้กับรัฐบาลและอำนาจชั่วร้ายใดๆ ที่คุณเอกนัฏพบเห็น สู้กันไปตามกติกา และครรลองประชาธิปไตยด้วยเถิดครับ
 
ผมยังมีความหวังในตัวคุณเอกนัฏ และพร้อมให้โอกาสคุณเอกนัฏพิสูจน์ตัวเองครับ
 
เริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยการที่คุณเอกนัฏออกมาขอโทษ และถอนคำพูดเท็จที่บิดเบือนผมครับ
 
แต่ถ้าคุณเอกนัฏทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้สึกสำนึกอะไรทั้งสิ้น คุณเอกนัฏก็กำลังก้าวตามรอยนักการเมืองยุคสกปรก ที่พร้อมจะเล่นสกปรก อย่างไร้สำนึกต่อไปโดยสุดท้ายคุณเอกนัฏเองก็จะติดอยู่ในวงจรโสโครกนี้ไปตลอดชีวิต.
 
---
อนึ่ง คุณเอกนัฏ อาจไม่ทราบว่าที่ผ่านมา ผมได้วิจารณ์ตรวจสอบประเด็น คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยมาตลอด ลองอ่านข้อเท็จจริงได้ที่ https://bit.ly/AboutVP (โดยเฉพาะ ข้อ 6)
 
 
 

'พระไพศาล' ชี้หากทั้ง2ฝ่ายจองเวรไม่เลิกรา จะไม่มีวันเจอทางออก

'พระไพศาล' ชี้หากทั้ง2ฝ่ายจองเวรไม่เลิกรา จะไม่มีวันเจอทางออก



'พระไพศาล' กล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่า หากผู้คนทั้งสองฝ่ายยังโกรธเกลียดเคียดแค้นและจองเวรไม่เลิกรา จะไม่มีวันหาทางออกเจอเลย เพราะต่างติดอยู่ในวังวนแห่งความรุนแรงที่ยกระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนพินาศกันทั้งสองฝ่ายในที่สุด
 
 
พระไพศาล วิสาโล  พระนักเผยแผ่ชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วานนี้ (24 ก.พ.) เกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยพระไพศาล เขียนข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เมื่อมีความตายเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องที่สมควรดีใจหรือสะใจเลย ยิ่งเป็นเด็กที่ไม่ประสาด้วยแล้ว เราควรเสียใจที่เขาด่วนจากโลกนี้ไป พร้อมระบุหากผู้คนทั้งสองฝ่ายยังโกรธเกลียดเคียดแค้นและจองเวรไม่เลิกรา จะไม่มีวันหาทางออกเจอเลย  รายละเอียดทั้งหมดดังนี้ 
 
 
เมื่อมีความตายเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องที่สมควรดีใจหรือสะใจเลย เพราะผู้ที่ตายนั้นไม่ว่าใส่เสื้อสีอะไร สังกัดฝ่ายไหน เหนืออื่นใดเขาเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ มีครอบครัวและคนรักเช่นเดียวกับเรา ยิ่งเป็นเด็กที่ไม่ประสาด้วยแล้ว เราควรเสียใจที่เขาด่วนจากโลกนี้ไป และควรเห็นใจพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียผู้ที่รักปานดวงใจ แต่หากเราดีใจหรือสะใจกับการตายของเขา นั่นแสดงว่าบางส่วนของเรากำลังตายไปด้วย สิ่งนั้นคือความเป็นมนุษย์
 
ขณะเดียวกัน กับคนที่ดีใจหรือสะใจในการตายของคนอื่น เราก็ไม่ควรโกรธแค้นถึงกับสาปแช่งให้เขาหรือลูกของเขามีอันเป็นไปด้วย ในเมื่อเห็นว่าเขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ควรหรือที่เราจะเจริญรอยตามเขา หรือเอาเขาเป็นครู หากเราเห็นว่าเขาไม่ควรสะใจกับการตายของคนอื่น เราก็ไม่ควรยินดีอยากเห็นการตายของเขาหรือคนที่เขารักเช่นเดียวกัน
 
มีหลายคนถามถึงทางออกของบ้านเมือง อาตมาตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าหากผู้คนทั้งสองฝ่ายยังโกรธเกลียดเคียดแค้นและจองเวรไม่เลิกรา จะไม่มีวันหาทางออกเจอเลย เพราะต่างติดอยู่ในวังวนแห่งความรุนแรงที่ยกระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนพินาศกันทั้งสองฝ่ายในที่สุด
 
พระไพศาล วิสาโล
 
 

'ดร.โสภณ' เสนอ 5 ขั้นตอนทางออกประเทศไทย


'ดร.โสภณ' นักธุรกิจชื่อดัง เสนอ 5 ขั้นตอนทางออกประเทศไทย อาทิ ขอให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหยุดชุมนุมทันที  และขอให้กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็วภายในเดือนมีนาคมนี้  
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย นักธุรกิจชื่อดัง และอดีตผู้สมัครชิง ผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กวันนี้ (25 ก.พ.) แนะนำทางออกประเทศไทย โดยเรียกร้องให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหยุดชุมนุมทันที  ขอให้กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็วภายในเดือนมีนาคมนี้ และให้มีการปฏิรูปการเมืองระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2557 แล้วรัฐบาลยุบสภา ลาออก รายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
 
เรื่อง ห้าขั้นตอนทางออกประเทศไทย
เรียน นายกรัฐมนตรี เลขาธิการ กปปส หัวหน้าพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ
 
ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้รุนแรงมาก มีการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจและอนาคตของชาติต่างเสียหายหนัก และยังเกิดความแตกแยกอย่างหนักในหมู่ประชาชน กระผมจึงขอเสนอทางออกประเทศไทยโดยไม่ทำลายรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใด ดังนี้:
 
1. ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหยุดชุมนุมทันที เพื่อรักษาชีวิตและหยุดความแตกร้าวในหมู่ประชาชน
 
2. รัฐบาล ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และพรรคการเมืองทุกพรรค ลงสัตยาบรรณว่า
2.1 จะปฏิรูปการเมืองในประเด็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม หลังการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน 4 เดือน
2.2 ในระหว่างการมีรัฐบาล 4 เดือนนี้ พรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่นี้จะใช้อำนาจอย่างจำกัด เพื่อไม่สร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งใหม่
 
3. กกต.จัดการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด ภายในเดือนมีนาคม 2557
 
4. ปฏิรูปการเมืองในระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2557 แล้วรัฐบาลยุบสภา ลาออก
 
5. จัดการเลือกตั้งใหม่ที่ให้ทุกพรรคมีส่วนร่วมอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมในเดือนกันยายน 2557
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
 
ด้วยความเคารพ
ดร.โสภณ พรโชคชัย
thaiappraisal@gmail.com @pornchokchai www.facebook.com/dr.sopon4
 
 

าลฎีกานัดพิพากษาคดีกำนันเซี๊ยะเป็นอั้งยี่

ศาลฎีกานัดพิพากษาคดีกำนันเซี๊ยะเป็นอั้งยี่


ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีกำนันเซี๊ยะกับพวกฐานเป็นอั้งยี่ ฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างเมืองกาญจนบุรี
          
 
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เวลา09.00น. ศาลเตรียมออกนั่งบัลลังก์นัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี๊ยะ อดีต สส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ , นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา, น.ส.วรรณา ล้อไพบูลย์ บุคคลใกล้ชิดของนางเขมรพร และ นายถวิล หรือ น้อยหนวด สวัสดี เป็นจำเลย ที่ 1-4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้วประมูล)
          
 
คดีนี้ อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่าง พ.ศ.2542 - 17 พ.ค.2544 จำเลยร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ใน จ.กาญจนบุรี หลายโครงการ โดยเมื่อเดือน พ.ค.2544 จำเลยร่วมประชุมนัดแนะกำหนดแผนการ จัดสรรแบ่งงานผลประโยชน์แก่สมาชิกในการเข้าร่วมโครงการประมูลงานก่อสร้างหลายโครงการใน จ.กาญจนบุรี และ จ.เพชรบุรี
          
 
คดีนี้ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้จำคุก กำนันเซี๊ยะ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี ฐานเป็นหัวหน้า หรือผู้มีตำแหน่งในอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 วรรค 2 ส่วนจำเลยที่ 2 - 4 จำคุกคนละ 4 ปี ฐานเป็นอั้งยี่ ต่อมา ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
          
อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษพวกจำเลย และนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
 
 
 
ที่มา :  News  Center /  posttoday 

'สมชัย' FB ผลคุย 'พุทธะอิสระ-สมชาย' รอบแรกฉลุย

'สมชัย' FB ผลคุย 'พุทธะอิสระ-สมชาย' รอบแรกฉลุย


กกต.สมชัย โพสต์เฟซบุ๊ก เผยผลการเจรจาระหว่าง 'พุทธะอิสระ' กับ 'สมชาย วงศ์สวัสดิ์' เริ่มเห็นแสงสว่างในการแก้ปัญหา คุยรอบต่อไป เชิญสื่อสองฝ่ายร่วมด้วย 
 
 
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า " การเจรจา 2 ฝ่าย เกิดขึ้นแล้ว และ ยังเดินหน้าต่อไป
 
ผลของเจรจาใหม่รอบที่ 1 ระหว่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ หลวงปู่พุทธะ อิสระ เป็นแสงสว่างที่เริ่มเกิดขึ้นของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งยาวนานในสังคม
 
เกือบหนึ่งชั่วโมงของการเจรจาอย่างตรงไปตรงมา ยังไม่มีการเสนอเนื้อหาที่เป็นความต้องการอะไรของแต่ละฝ่าย แต่มุ่งสู่การแลกเปลี่ยน คิดค้น กระบวนการขั้นตอน และ กำหนดตัวบุคคลที่สำคัญ ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง ในแต่ละขั้นตอนของการเจรจา โดย เริ่มจาก 2 คน เป็น 4 คน และ จบลงในรอบสุดท้ายที่ 6 คน (ฝ่ายละ 3) ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 สัปดาห์
 
หัวใจสำคัญของการเจรจารอบที่ 1 จึงเป็นการตกลงเกี่ยวกับ การสร้างกระบวนการเจรจาที่นำไปสู่การคลี่คลายปัญหาของประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องช่วยสร้างและช่วยกันประคองให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการเจรจา
 
"มโนกรรม วจีกรรม และ กายกรรม" จึงเป็นข้อสรุปสำคัญของการสร้างบรรยากาศเจรจา
 
การคิดดี จริงใจ เห็นประโยชน์การเจรจา ไม่มีเล่ห์กล ไม่เปิดหน้าเจรจาแต่เบื้องหลังมุ่งร้าย เป็นประการที่หนึ่ง (มโนกรรม)
 
วาจามุ่งร้าย โจมตี ใข้ถ้อยคำหยาบคาย ปลุกระดมให้เกิดความขิงชัง (hate speech) ต่อสาธารณะ จาก 2 ฝ่าย ต้องลดลง เป็นประการที่สอง (วจีกรรม)
 
การคุกคามถึงสิทธิเสรีภาพต่อทุกฝ่าย การทำร้ายร่างกาย ชีวิต ด้วยอาวุธ จนกลายเป็นความสูญเสียต่อผู้ชุมนุมหรือประชาชน ต้องไม่เกิดขึ้นอีก เป็นประการที่สาม (กายกรรม)
 
แม้ว่า คู่เจรจาคู่แรก จะไม่สามารถรับปากได้ว่า จะมีศักยภาพเพียงพอที่จะนำพาทุกส่วนในสังคม ให้คล้อยตามในการสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจาได้ เพราะมี "หลายสิ่ง" อยู่เหนือการควบคุม
 
แต่อย่างน้อยจะช่วยส่ง "สัญญาน" ให้แก่ทุกฝ่ายว่า หนึ่งสัปดาห์จากนี้ หากความรุนแรงที่เกิดขึ้นเริ่มลดลง
การเจรจาครั้งที่สอง ที่เพิ่มจาก 2 เป็น 4 จะเกิดขึ้น
 
หากอยากให้การเจรจารอบต่อไปเกิด ทุกคนต้องช่วยกัน
 
สำเนาเรียน
 
1) ประชาชนไทย
 
2) นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ศรส. พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.
นักวิชาการซีกรัฐบาล สื่อมวลชนซีกรัฐบาล (ช่อง 11, voice tv , asia update)
 
3) สุเทพ เทือกสุบรรณ มวลชน กปปส. พรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการซีกตรงข้ามรัฐบาล
สื่อมวลชนตรงข้ามรัฐบาล (blue sky, ASTV , T news) " 
 

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา