นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วันนี้ (25 ก.พ.) กรณีที่ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าตนเอง โพสต์ข้อความเกี่ยกับการบิดเบือน ยืนยันไม่ได้บิดเบือน
ขออนุญาตตอบอาจารวีรพัฒน์ครับ ก่อนอื่นไม่มีความรู้สึกไม่ชอบเป็นการส่วนตัวแต่ในฐานะแกนนำผมมีหน้าที่ที่จะต้องนำเสนอข้อเท็จจริงประกอบกับเหตุผลไม่ให้ความจริงถูกนำไปบิดเบือนโดยกลุ่มคนที่มีอคตินะครับ
1) คนเขียนกับคนพูดคนเดียวกันครับ ไม่มีการบิดเบือน พูดความจริงอย่างเปิดเผยทั้งหมดเพียงแต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่อาจารพยายามใช้วาทกรรมประกอบกับการเผยแพร่ข้อมูลซึ่งเป็นการชี้นำที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ผู้ชุมนุมถูกกระทำและคนผิดคือผู้ร้าย การแสดงออกลักษณะนี้ไม่เป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมครับ ในภาพรวมผมคิดว่าอาจารเช่นเดียวกับรัฐบาลให้นํ้าหนักกับการประณามและจับกุมตัวคนร้ายน้อยไปมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายด้วยอาวุธสงครามโดยกองกำลังติดอาวุธที่หวังผลเอาชีวิตผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ และการตั้งใจละเลยการปฏิบัติหน้าที่เพิกเฉยต่อการดำเนินการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดถือเป็นการให้ท้ายในทางอ้อม เชื่อผมเถอะครับถ้าคิดจะป้องกันการกระทำที่โหดเหี้ยมอุกอาจขนาดนี้เปลี่ยนสถานที่ก็ใช้ว่าจะปลอดภัย มีอย่างเดียวคือต้องจับคนร้ายมาให้ได้ถึงจะหยุดยั้งเหตุร้ายได้ครับ
2) เรื่องตำรวจ ผมไม่ได้ต่อว่าตำรวจทั้งองค์กรแต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บางส่วนไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ที่ผ่านมา:-
- เจ้าหน้าที่จับคนร้ายที่ก่อเหตุร้ายกับประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลไม่ได้เลย ตั้งแต่ รามคำแหง สนามกีฬา บรรทัดทอง สะพานชมัยฯ ราชดำเนิน อนุสาวรีชัยสมรภูมิ 5แยกลาดพร้าว วัดศรีเอี่ยม ยังไม่รวม ศาล ที่พักแกนนำ นักปราศรัย บ้านคุณประมน คลินิก นพ. นิรันดร์ เป็นต้น ผมไม่เชื่อครับว่าไม่ใช้เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีความสามารถ
- การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงมาโดยตลอด จำได้มั้ยครับกรณี ชายชุดดำบน ก.แรงงาน ก็ด่วนสรุปว่าเป็นผู้ชุมนุม แต่ที่สุดก็จำนนต่อหลักฐานต้องยอมรับว่าเป็นตำรวจ
- หน้าสโมสรกองทัพบก ตำรวจแฝงตัวเข้ามาพร้อมอาวุธปืนและระเบิดปิงปอง แต่ถูกจับได้ อาจารลองไปสืบประวัติตำรวจคนนี้ด้วยนะครับจะพบว่าใครอยู่เบื่องหลัง
แต่พวกเราก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่นะครับขอเพียงแต่ให้เข้ามาอย่างเปิดเผยใส่เครื่องแบบไม่ติดอาวุธ ที่สำคัญคือการป้องเหตุหรือการจับกุมสามารถทำได้โดยไม่ต้องเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมด้วยซํ้าจึงไม่อยากให้นำไปใช้เป็นข้ออ้าง
3) ผมได้ทิ้งตำแหน่ง เอาชีวิตและอนาคตมาเสี่ยงต่อสู้เคียงข้างประชาชน ต่อสู้กับระบอบทรราชที่นำอำนาจไปกระทำการฉ้อฉล เราต่อสู้ด้วยความอดทนในแนวทางที่ถูกต้อง ยึดหลักสันติและไม่มีอาวุธ ถ้าเอาชีวิตที่พี่น้องของเราต้องเสียไปมาแลกกับชีวิตผมได้ก็ยอม ผมก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับพี่น้องของเราครับ ที่บรรทัดทองผมก็อยู่หางจากระเบิดเพียงไม่กี่สิบเมตร พวกเราตัดสินใจปรับยุทธศาสตร์โดยคำนึงถึงหลายปัจจัย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนผมไม่กลัวตายครับ แต่คุณแม่ผม น้องสาวผมก็อยู่ในที่ชุมนุมกับพี่น้องของเราทุกคน ผมไม่เอาชีวิตคนเหล่านี้มาเสี่ยงเพื่อความสะใจหรอกครับ แล้วก็ไม่ต้องห่วงอนาคตผม ห่วงอนาคตของชาติดีกว่า ชีวิตผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งทางการเมืองครับ อยู่ตรงไหนก็ได้ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
4) ผมเป็นคนรับผิดชอบต่อการให้ข้อมูลครับ ต่างจากพวกรุ่นใหญ่หลายคนที่ไม่กล้ารับผิดเวลาผิดพลาด สู้ด้วยความจริงมาโดยตลอด การแสดงความคิดเห็นไม่มีเจตนาบิดเบือนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและคิดว่าคงไม่มีอะไรที่จะต้องขอโทษ
แต่ผมก็ขอขอบคุณอาจารที่ตอบโต้อย่างเปิดเผยผมเคยชื่นชมความรู้ความสามารถของอาจารครับ แต่อยากให้นำความรู้ความสามารถของอาจารมาใช้ให้เป็นประโยชน์ดูแลรักษาบ้านเมืองของเรา สนับสนุนคนดี ไม่ปกป้องคนเลว ผมก็ทราบมาว่าอาจารก็เคยวิจารณ์ระบอบทักษิณเช่นกัน ผมเข้าใจว่าบางทีอาจารและหลายท่านอาจจะคิดต่างและผมเองก็ยินดีรับฟังเพราะศัตรูของประชาชนตัวจริงคือคนอย่างคุณทักษิณ แต่หวังว่าอาจารจะยึดมั่นในความเป็นนักวิชาการอิสระวิจารณ์อย่างเป็นธรรมปราศจากอคติเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองนะครับ
ด้วยความเคารพครับ