เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 19 ก.พ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.พร้อมด้วยนายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัทธิยกุล นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ เคลื่อนขบวนรถปราศรัย ถึงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม สมทบกับมวลชนที่รออยู่ก่อนหน้า เพื่อกดดันและโจมตีนายกรัฐมนตรี ไม่ให้ใช้สถานที่ของสำนักงานปลัดฯปฎิบัติงาน โดยระหว่างแกนนำสลับปราศรัย นายสุเทพ ได้กวาดสายตามองพื้นโดยรอบและอาคารสูงเป็นระยะ ขณะที่การ์ดกปปส.ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วตระเวนดูโดยรอบอาคารและพื้นที่ใกล้เคียงสำนักงานปลัดฯ ในระหว่างที่มวลชนปักหลักขับไล่รัฐบาล
โดยนายชุมพล เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนออกจากตัวอาคารทั้งหมด โดยให้คงกำลังทหารไว้เท่านั้น ยืนยันว่ามวลชนเป็นมิตรกับทหารและจะไม่บุกเข้ามาภายในอาคารแน่นอน แต่ทหารต่องไม่ให้นายกฯใช้สถายที่แห่งนี้ทำงาน
จากนั้นเวลา12.00น.พ.อ.อภิชาติ แสงรุ่งเรือง ผอ.การศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร เป็นตัวแทนฝ่ายทหาร ได้ประสานให้แกนนำประกอบด้วย นายสุเทพ นายณัฏฐพล ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายชุมพล นายสกลธี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และนายพุทธิพงษ์
เข้ามาเจรจาภายในกองเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ กรมการเงินกลาโหม ใช้เวลานานกว่า 30นาที
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องการทุจริตครั้งนี้เป็นการทำลายชาติที่รุนแรงที่สุด และตัวอย่างที่เห็นชัดคือโครงการรับจำนำข้าวที่ใช้เงินถึง 7-8 แสนล้านบาทและขาดทุนถึง 4-5 แสนล้านบาท ชาวนาไม่ได้รับเงินทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกย่อมหญ้า ซึ่งตนรับไม่ได้ เพราะเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำงานในกระทรวงกลาโหม แต่ไม่เคยสั่งให้ใครทุจริต แต่วันนี้การโกงไม่ใช่แค่ 2-5 เปอร์เซ็นต์ แต่โกงถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะเหลือเงินส่วนอะไรมาพัฒนาประเทศ อีกทั้งการเล่นพรรคเล่นพวกก็เป็นการทำลายวงการราชการอยู่ขณะนี้ เช่น ตำรวจยศพลตำรวจบอกว่ามีวันนี้เพราะพี่ให้ และกล้าทำอะไรก็ได้ทุกอย่างตามที่เขาสั่งมา โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และทั้งหมดคือสิ่งที่คนไทยทนไม่ได้ และออกมาเคลืาอยไหวเพราะเขาสะสมความในใจมากว่า 10 ปี จึงต้องการปฏิรูปประเทศ ไม่ให้มีการคอรัปชั่น โดยให้ประชาชนมีอำนาจปกครองบ้านเมือง จึงต้องรีบปฏิรูปเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
"ผมไม่ต้องการเป็นใหญ่ หรือเป็นนายกฯ และทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้อยากมีตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้าเราทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกไปได้ เราจะให้คนกลางที่ประชาชนเคารพนับถือ ซึ่งอาจเป็นข้าราชการพลเรือนสักคนหนึ่ง เป็นพ่อค้า ทหาร หรือเป็นใครก็ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่เอานักการเมืองมาเกี่ยวข้อง พร้อมปฏิรูปประเทศเพื่อตั้งสภานิติบัญญัติของประชาชน โดยที่ไม่มีนักการเมือง เพราะเราจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ถ้าหากมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจะเสียประโยชน์ และคิดว่าใช้เวลา 1 ปีก็จบได้" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่ายืนยันว่าที่ตนออกมาชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้หวังผลทางการเมือง หากทำงานนี้สำเร็จนั่นคือการทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรวมถึงล้างระบอบทักษิณให้หมดไปได้ ตนก็จะวางมือไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว รวมถึงไม่ลงเลือกตั้ง หากเสร็จงานนี้แล้วตนไม่ติดคุกเสียก่อนก็จะกลับบ้านที่จังหวัดสุราษฎ์ธานีทันที จึงฝากเรียนพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ด้วยว่าเราไม่ต้องการให้ใช้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป เพราะอาคารนี้สร้างภาษีประชาชนแต่นายกรัฐมนตรีคือคนที่ประชาชนไม่ต้องการ และถ้านายกรัฐมนตรียังมาทำงานที่นี่ พวกตนก็จะมาล้อมที่นี่ทุกวัน และถ้ายังคงมาทำงานที่นี่อีกก็จะปักหลักตั้งเวที 24 ชั่วโมงที่สำนักปลัดฯ และอย่าให้นายกรัฐมนตรีมาที่นี่อีก หากครั้งหน้ารู้ว่ายังมาอยู่จะขออนุญาตเข้าพื้นที่อาคาร
"วันนี้อยากให้ทหารถามใจตัวเองว่าระบอบทักษิณทรยศกับสิ่งที่ทหารได้ปฏิญาณหรือไม่ และวันนี้เราขอขอบคุณทหารทั้ง 3 เหล่าทัพในเรื่องของการวางตัว แต่ถ้าทหารตัดสินใจอยู่เคียงข้างประชาชนวันไหน เรื่องทุกอย่างจะจบลงทันที และถ้าจบลงแล้วพวกท่านก็สามารถมาช่วยกำหนดอนาคตของประเทศกันได้ จึงขอให้สำนักงานปลัดฯ มีความชัดเจนเหมือน 3 เหล่าทัพด้วย เพราะวันข้างหน้าท่านต้องทำงานกับประชาชนอีก" นายสุเทพ กล่าว
ด้านพล.อ.อภิชาต แสงรุ่งกล่าวว่า ตนจะนำสิ่งที่นายสุเทพกล่าวมาเรียนพล.อ.นิพัทธ์ ยืนยันว่าทหารอยู่ในกรอบซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบกยังบอกพวกตนว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง พวกเราเป็นฝ่ายความมั่นคงไม่เอนเอียงฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง เราอยู่ภายใต้กฏหมายและผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ซึ่งนายสุเทพ กล่าวแย้งว่า การเมืองแก้ด้วยการเมืองไม่ได้ เพราะขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติ จึงต้องใช้วิธีพิเศษ และพลเอกอภิชาต กล่าวต่อว่า ความเป็นธรรมจะเข้าข้างความถูกต้อง ซึ่งท่านรู้ว่าอะไรคือความถูกต้องเราจะไม่ตัดสินใจแทนท่าน พวกท่านคงรู้ข้อมูลที่ถูกต้องอยู่แล้ว และว่าแต่ระดับพลเอกเลยพลทหารก็รู้หมดแล้ว ที่จะเข้าข้างความถูกต้องและเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากจบการเจรจาได้มีเจ้าหน้าที่ทหารนำซองเงินที่มีโลโก้ของธนาคารออมสินมาบริจาคพร้อมกับกล่าวว่าให้นำเงินไปช่วยชาวนาด้วย นายสุเทพจึงรับซองดังกล่าวแล้วกลับไปพบมวลชนทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการพูดคุยกับตัวแทนนายทหารเสร็จสิ้น นายสุเทพ กลับออกมาขึ้นเวที ชี้แจงผลการพูดคุยกับฝ่ายทหาร ถึงการเคลื่อนไหวของมวลชนว่า มีจุดประสงค์เพื่อล้มล้างระบบทักษิณ ไม่มีเจตนาที่จะทะเลาะกับทหาร และเชื่อฝ่ายทหารที่ยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติงานในวันนี้
จากนั้นนายสุเทพ ปราศรัยโจมตีการใช้อำนาจและการบริหารรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ในโครงการรับจำนำข้าว การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม และประกาศกับมวลชนให้ยกระดับการชุมนุม โดยพุ่งเป้าโจมตีธุรกิจในครอบครัวชินวัตร โดยเฉพาะบริษัทเอสซี แอสเซส และเตือนนักลงทุนและบริษัทที่ซื้อหุ้นในเครือชินวัตรให้รีบขายออกโดยเร็ว หากพวกตนดำเนินการอะไรอย่าหาว่าไม่เตือน อย่างไรก็ตามนายสุเทพและมวลชนได้พักทาน
ท อาหารเที่ยงก่อนที่แกนนำประกาศเคลื่อนขบวนไปผ่านไปที่ศรส.และอาคารชินวัตร3 ถนนวิภาวดีรังสิตต่อไป
ที่มา khaosod.co.th
