น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 15 มกราคมนี้ จะเดินทางเข้าร่วมหารือ เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ที่รัฐบาลส่งหนังสือเชิญให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จุดประสงค์ที่รัฐบาลส่งหนังสือเชิญนั้น สืบเนื่องมาจากเอกสารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะหารือเรื่องการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย เราเห็นว่ามีความจำเป็น ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ประสานงานภายใต้การทำงานของ กกต. ฉะนั้น เราควรรับฟังปัญหาจากพรรคการเมืองและผู้ปฏิบัติงานว่าติดปัญหาอะไร ซึ่งจะนำไปเป็นข้อคิดในการหารือว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย
"เป็นเรื่องที่เราต้องรับฟัง เพราะอยากเห็น กกต.เข้าไปฟังด้วย เพราะ กกต.เป็นแม่งาน หากเข้าไปฟังจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ก็จะเป็นประโยชน์ที่จะศึกษาว่าปัญหาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และจะร่วมกันแก้ไขอย่างไร จึงต้องฟังพรรคการเมืองด้วยว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ที่สำคัญพรรคการเมืองใหญ่ๆ ต้องมาพูดคุยกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เมื่อถามว่า หาก กกต.ไม่เข้าร่วมด้วย จะทำอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ต้องขอร้อง กกต. หากไม่เข้าฟัง ก็จะไม่ได้รับข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งหนังสือมา เราจึงอยากเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือพร้อมกัน หากหารือเพียงคนใดคนหนึ่ง ปัญหาก็ไม่จบ อยากเรียนว่าต้องแยกปัญหาเป็น 2 ส่วน คือ ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่จะทำอย่างไรที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งต้องรับฟังจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และปัญหาข้อกฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดแยกกัน
ต่อข้อถามว่า เหตุผลที่ กกต.เสนอให้นายกฯออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอที่รัฐบาลจะตัดสินใจใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่ค่ะ ในเอกสารของ กกต.ให้หารือเรื่องการเลือกตั้ง ส่วนข้อกฎหมายผู้ที่มีหน้าที่ต้องมาหารือ หากพูดแต่ตัวกฎหมายว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนและเลื่อนได้หรือไม่ โดยที่ยังไม่ได้พูดเรื่องการบริหารจัดการก็ไม่ได้ วันนี้ปัญหาเก่าคือพรรคการเมืองยังไม่ได้สมัครลงเลือกตั้ง เราจะทำอย่างไรถือเป็นขั้นตอนเริ่มต้น ยังไม่ต้องพูดไปถึงขึ้นตอนข้อกฎหมาย หากคุยแต่ข้อกฎหมายโดยที่หนังสือของ สตง.ยังไม่ให้ดำเนินการ ถามว่าจะดำเนินการได้อย่างไร คิดว่าประเด็นนี้เราต้องมาเปิดใจคุยกันด้วยเหตุผล ใครที่มีความรู้มาช่วยกันแนะนำ
เมื่อถามว่า ปัญหาหน้างานคือกลุ่ม กปปส.ปฏิเสธเข้าร่วมพูดคุย นายกฯกล่าวว่า หากพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่ม กปปส.ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงไม่เข้าร่วม รัฐบาลก็ต้องพยายามต่อไป เพราะเราอยากเห็นคือการเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงเจตนารมณ์ในเรื่องนี้ เพราะทุกพรรคการเมืองมีหน้าที่ลงสมัครเลือกตั้ง หากไม่รับกติกา บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร ขณะที่ข้อเสนอของผู้ชุมนุมที่เรียกร้องเรื่องการปฏิรูป ทำไมไม่มาพูดคุยเพื่อให้การปฏิรูปเกิดขึ้น เพราะการทำแบบนี้คือทำให้ประเทศเจ็บปวด ทุกคนได้รับความเดือดร้อน จึงขอความร่วมมือและขอร้องให้มาเข้าสู่เวทีปฏิรูป แล้วจะปฏิรูปอะไร แก้ไขอะไรเพื่อให้การปฏิรูปของภาคประชาชนให้ปลอดจากนักการเมืองและการทุจริตคอร์รัปชั่น ให้บังเกิดผลได้ หากเรียกร้องแบบนี้บ้านเมืองเดินต่อไม่ได้
เมื่อถามว่า กปปส.มีเงื่อนไขเดียวคือให้นายกฯลาออกจากการรักษาการ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและทุกวันนี้ไม่ได้ยึดติดสถานภาพทางการเมือง แต่กำลังรักษาประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
http://www.matichon.co.th/