วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

ข้อคิดจากคุณเอก RESPECT MY VOTE ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ สปป

17:51  Unknown  


ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย


ได้ฟังคุณเอกพูดในรายการ wake up Thailand เช้าวันก่อน น่าสนใจมากว่าคุณเอกติดตามการเมืองอย่างจริงจัง มีข้อมูลและความรู้ในประวัติของเรื่องประกอบอย่างน่าคิด ไม่ใช่ทำไปด้วยอารมณ์แน่ๆ ที่ผมประทับใจและเห็นด้วยคือการเล่าว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้กลวิธีเดิมๆในการป้ายสีคู่ต่อสู้ว่าเป็นพวกไม่ดีและคดโกงหรือคอร์รัปชั่น เช่นเหตการณ์การเลือกตั้งสกปรกปี ๒๕๐๐ จนทำให้มีนิสิตจุฬาฯออกมาเดินขบวนคัดค้านผลการเลือกตั้ง เรื่องจบลงด้วยการที่จอมพลสฤษดิ์ ออกมาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากจอมพลป.พิบูลสงคราม

ผมเพิ่งสะดุดใจและกำลังหาเวลาไปค้นคว้าข้อมูลเรื่องการเลือกตั้งสกปรกปี ๒๕๐๐ เพราะกำลังมีสมมติฐานคล้ายที่คุณเอกตั้งข้อสังเกตไว้ ว่าสงสัยการโจมตีการเลือกตั้งปี ๒๕๐๐ ก็มีการร่วมมือและดำเนินการอาจมีการวางแผนร่วมกันระหว่างพรรค ปชป.กับกลุ่มค้านต่างๆหรือไม่มีก็ได้ คล้ายๆกับการเคลื่อนไหวของม๊อบประท้วงขณะนี้ แต่ที่สำคัญคือการที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่ออกมาวิพากษ์ในเสียงเดียวกัน (สมัยโน้นมีอย่างเดียวคือหนังสือพิมพ์) จนกลายเป็นประชามติของสังคมไป ทำให้กองทัพโดยจอมพลสฤษดิ์ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร และฝ่ายไม่เห็นด้วยก็พูดไม่ออก เพราะคนเชื่อกันหมดแล้วว่าฝ่ายรัฐบาลและพรรครัฐบาลเป็นพวก “คนเลว” คนโกง การทำรัฐประหารแม้จะไม่ถูกแต่ก็ไม่เลวเสียทีเดียวในตัวมันเอง

ที่น่าสนใจมากๆอีกก็คือ คุณเอกกล่าวว่า “นิสิตจุฬาฯออกมาเดินขบวน”เท่านั้น เรามักนึกว่านิสิตนักศึกษา หมายถึง จุฬาฯและธรรมศาสตร์ จริงๆแล้วนักศึกษาธรรมศาสตร์ออกมาเดินขบวนในปี ๒๕๐๐ ทีหลัง เข้าใจว่าถูกชวนจากจุฬาฯ ผมกลับไปดูข้อมูลการเคลื่อนไหวในปี ๒๕๔๙ ที่นำไปสู่การรัฐประหาร คมช. พบว่ากลุ่มนักวิชาการ(อาจารย์)ที่เป็นหัวหอกและแกนนำนั้นก็มาจากจุฬาฯ ในขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน นี่กำลังเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือไม่

ถ้าข้อมูลในประวัติศาสตร์ยืน แสดงว่า การทำรัฐประหารในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น แท้จริงแล้วมาจากการสบคบคิดและร่วมมือ(โดยรู้หรือไม่รู้)ของฝ่ายพลเรือน ที่สำคัญคือปัญญาชนคนชั้นสูงและกลางทั้งหลายนั่นเอง แน่นอนกองทัพโดยแกนนำก็มีความต้องการอยู่ด้วย จะด้วยประโยชน์ อุดมการณ์ความเชื่อจารีตประเพณีอะไรก็ตามของทหาร แต่ทั้งหมดนั้นทำไม่ได้ง่ายๆและราบรื่นหากไม่ได้การแนะนำ หนุนช่วยแล้วสนับสนุนหลังการยึดอำนาจสำเร็จ จากบรรดาชนชั้นนำทางจารีตและทางเศรษฐกิจของสังคมไทย
ที่มา

สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
13 ชั่วโมงที่แล้ว
ข้อคิดจากคุณเอก RESPECT MY VOTE
ต่อประวัติศาสตร์รัฐประหาร

ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
...ดูเพิ่มเติม
รูปภาพ : ข้อคิดจากคุณเอก RESPECT MY VOTE ต่อประวัติศาสตร์รัฐประหาร ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ได้ฟังคุณเอกพูดในรายการ wake up Thailand เช้าวันก่อน น่าสนใจมากว่าคุณเอกติดตามการเมืองอย่างจริงจัง มีข้อมูลและความรู้ในประวัติของเรื่องประกอบอย่างน่าคิด ไม่ใช่ทำไปด้วยอารมณ์แน่ๆ ที่ผมประทับใจและเห็นด้วยคือการเล่าว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้กลวิธีเดิมๆในการป้ายสีคู่ต่อสู้ว่าเป็นพวกไม่ดีและคดโกงหรือคอร์รัปชั่น เช่นเหตการณ์การเลือกตั้งสกปรกปี ๒๕๐๐ จนทำให้มีนิสิตจุฬาฯออกมาเดินขบวนคัดค้านผลการเลือกตั้ง เรื่องจบลงด้วยการที่จอมพลสฤษดิ์ ออกมาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากจอมพลป.พิบูลสงคราม ผมเพิ่งสะดุดใจและกำลังหาเวลาไปค้นคว้าข้อมูลเรื่องการเลือกตั้งสกปรกปี ๒๕๐๐ เพราะกำลังมีสมมติฐานคล้ายที่คุณเอกตั้งข้อสังเกตไว้ ว่าสงสัยการโจมตีการเลือกตั้งปี ๒๕๐๐ ก็มีการร่วมมือและดำเนินการ อาจมีการวางแผนร่วมกันระหว่างพรรค ปชป.กับกลุ่มค้านต่างๆหรือไม่มีก็ได้ คล้ายๆกับการเคลื่อนไหวของม๊อบประท้วงขณะนี้ แต่ที่สำคัญคือการที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่ออกมาวิพากษ์ในเสียงเดียวกัน (สมัยโน้นมีอย่างเดียวคือหนังสือพิมพ์) จนกลายเป็นประชามติของสังคมไป ทำให้กองทัพโดยจอมพลสฤษดิ์ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร และฝ่ายไม่เห็นด้วยก็พูดไม่ออก เพราะคนเชื่อกันหมดแล้วว่าฝ่ายรัฐบาลและพรรครัฐบาลเป็นพวก “คนเลว” คนโกง การทำรัฐประหารแม้จะไม่ถูกแต่ก็ไม่เลวเสียทีเดียวในตัวมันเอง ที่น่าสนใจมากๆอีกก็คือ คุณเอกกล่าวว่า “นิสิตจุฬาฯออกมาเดินขบวน”เท่านั้น เรามักนึกว่านิสิตนักศึกษา หมายถึง จุฬาฯและธรรมศาสตร์ จริงๆแล้วนักศึกษาธรรมศาสตร์ออกมาเดินขบวนในปี ๒๕๐๐ ทีหลัง เข้าใจว่าถูกชวนจากจุฬาฯ ผมกลับไปดูข้อมูลการเคลื่อนไหวในปี ๒๕๔๙ ที่นำไปสู่การรัฐประหาร คมช. พบว่ากลุ่มนักวิชาการ(อาจารย์)ที่เป็นหัวหอกและแกนนำนั้นก็มาจากจุฬาฯ ในขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน นี่กำลังเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือไม่ ถ้าข้อมูลในประวัติศาสตร์ยืน แสดงว่า การทำรัฐประหารในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น แท้จริงแล้วมาจากการสบคบคิดและร่วมมือ(โดยรู้หรือไม่รู้)ของฝ่ายพลเรือน ที่สำคัญคือปัญญาชนคนชั้นสูงและกลางทั้งหลายนั่นเอง แน่นอนกองทัพโดยแกนนำก็มีความต้องการอยู่ด้วย จะด้วยประโยชน์ อุดมการณ์ความเชื่อจารีตประเพณีอะไรก็ตามของทหาร แต่ทั้งหมดนั้นทำไม่ได้ง่ายๆและราบรื่นหากไม่ได้การแนะนำ หนุนช่วยแล้วสนับสนุนหลังการยึดอำนาจสำเร็จ จากบรรดาชนชั้นนำทางจารีตและทางเศรษฐกิจของสังคมไทย
1,267ถูกใจ ·  · 

Posted in:

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา