อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาคดีถอดถอนแก้รธน.ต่อป.ป.ช. ย้ำเป็นอำนาจสมาชิกรัฐสภา หากชี้มูลไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง ด้าน "อุดมเดช" วอน ป.ป.ช.ชี้แจงข้อหาใน15วันให้โอกาสผู้สมัครได้หาเสียงเลือกตั้ง
นายสมคิด กล่าวว่า หาก ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดกับอดีต.ส.ส. ก็ไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งในขณะนี้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งส.ส.แล้วจึงไม่เป็นเหตุให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หาก ป.ป.ช. ชี้มูลก็จะต้องใช้เสียงวุฒิสภา90เสียง
ขณะที่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับข้อกล่าวหาตนไม่ได้มีความกังวล โดยหลังจากนี้จะนำความจริงมาชี้แจงต่อป.ป.ช.ว่าในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยืนยันว่าจะไม่ไปใช้สิทธิตรงนั้นแล้ว แต่ในชั้นป.ป.ช.จำเป็นต้องชี้แจงอย่างเต็มที่เพื่อเอาข้อเท็จจริงมาให้คณะกรรมการป.ป.ช.รับทราบ ซึ่งจะชี้แจงให้ทราบถึงวาทกรรมที่มีคนตั้งใจใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูปลอมจนทำให้สังคมสับสนว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่กระบวนการเป็นอย่างนี้ตั้งแต่มีรัฐสภา ยืนยันว่าความเป็นสมาชิกรัฐสภารู้ดีว่ากระบวนการในการยื่นญัตติหรือเสนอร่างพระราชบัญญัติใดๆเป็นอย่างไร ดังนั้น สมาชิกรัฐสภาทุกคนมีความพร้อมที่จะให้ข้อมูลที่เป็นจริงเพื่อให้คนที่ไม่เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาได้รับรู้ว่าเขามีประเพณีปฏิบัติกันอย่างไร
นายอุดมเดช กล่าวว่า ระยะเวลาชี้แจงภายใน 15 วันหลังจากนี้อยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง มีอดีตสมาชิกรัฐสภาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย หากจะต้องทำอะไรสำคัญสองอย่างพร้อมกันคิดว่าอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้น ผู้สมัครอาจจะต้องขอโอกาสในการที่จะเลื่อนชี้แจง เพราะกรณีตนจะกระทบไปจนถึงวันที่ 29 มกราคม ซึ่งใกล้วันเลือกตั้ง จึงเชื่อว่าทุกคนคงจะต้องขอโอกาสที่จะทำหน้าที่ตัวเองในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.เสียก่อน โดยวันนี้ประชาชนเข้าใจข้อมูลข่าวสารชัดเจน คดีต่างๆ ไม่ใช่เรื่องคดีทุจริตคอร์รัปชั่น แต่รวมถึงอำนาจอื่นเข้ามาด้วยแล้ว ซึ่งหลายคนก็บอกเป็นอำนาจหรือไม่
ที่มา http://news.voicetv.co.th






