นายคณิน บุญสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีเสนอเลื่อนการเลือกตั้ง ว่า ตนขอยืนยันอีกเป็นครั้งที่ร้อยว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 นั้น เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาซึ่งมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 56 และจะสิ้นสุดการใช้บังคับก็ต่อเมื่อสภาผู้แทนราษฎร มี ส.ส. ครบ 500 คน ตามมาตรา 93 วรรคแรก และภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้ง คือภายในวันที่ 3 มี.ค. 57 กกต. ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งให้ครบ อย่างน้อยต้องมี ส.ส. ถึง 95% หรือ 475 คน ตาม รธน. มาตรา 127 เพื่อเปิดสภาฯ ถ้าถึงวันที่ 3 มี.ค. แล้ว ยังมี ส.ส. ไม่ครบ 475 คน ถือเป็นความผิดของ กกต. ฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กกต. ต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ ส.ส.อย่างน้อย 475 คน ก่อนวันที่ 3 มี.ค. ต่อจากนั้น เมื่อเปิดสภาแล้ว ยังมี ส.ส. ไม่ครบ 500 คน กกต. ก็มีเวลาอีก 180 วัน ที่จะหา ส.ส. ให้ครบ 500 คน คำว่า 180 วัน นับตั้งแต่วันที่มีพระราชกฤษฏีกา ที่นายสมชัย กกต. อ้างถึงนั้น หมายถึง 180 วัน หลังจากที่สภาเปิดแล้ว ไม่ใช่ 180 วัน หลังจากวันที่ประกาศพระราชกฤษฎีกา
นายคณิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้นมา นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งเลย อย่าว่าแต่อำนาจในการสั่งเลื่อนการเลือกตั้ง แม้แต่อำนาจในการไปสั่งข้าราชการให้ทำอะไรเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ยังทำไม่ได้ เพราะเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะอำนาจในการสั่งข้าราชการ ที่จะให้ปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง เป็นอำนาจของ กกต. แต่เพียงผู้เดียว
"การที่ กกต. มีหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขพระราชกฤษฎีกาเลื่่อนการเลือกตั้ง ออกไปเป็นวันที่ 4 พ.ค. นั้น จึงเป็นการกระทำที่อยู่นอกกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญคือรู้อยู่แล้วว่านายกรัฐมนตรีทำผิดกฎหมายไม่ได้ จึงไม่แน่ใจว่า กกต. มีเจตนาอะไรแฝงอยู่ หรือว่าเป็นห่วงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตกรถด่วนเที่ยวสุดท้าย จึงหาทางช่วยโดยการมาบีบบังคับนายกรัฐมนตรีให้ทำผิดกฎหมาย หรือว่ามีเจตนาลับ ลวง พราง ที่จะให้นายกรัฐมนตรีทำผิดกฎหมาย เพื่อที่จะให้เกิดความวุ่นวาย สูญญากาศ และล้มกระดาน" นายคณิน กล่าว
ทีมา http://www.ptp.or.th