วันที่ 15 ม.ค. ที่สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ. ลพบุรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า ขณะนี้ทุกคนมีความเห็นเยอะแล้ว และมีการพูดคุยกันเยอะแล้ว ทหารก็ไม่ต้องพูดเยอะมากซึ่งการพูดคุยกันถือเป็นสิ่งที่ดี เหมือนกับคนในครอบครัว ถ้าไม่คุย ไม่เข้าใจกันก็ไม่รู้ว่าอยากได้อะไร ดังนั้นการพูดคุยเจอกันบ่อยๆก็เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ผลประโยชน์จะได้กลับมาสู่ประเทศไทย เพราะทุกคนต่างรักประเทศไทย ถือเป็นสิ่งที่ดีที่การชุมนุมและ เดินขบวนที่ผ่านมาไม่มีความรุนแรง หรือสิ่งน่าตกใจ แต่ต้องมีความระมัดระวัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพจะกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งนายกฯ รักษาการ พล.อ.ธนะศักดิ์ ถามกลับว่า รู้จักภาษาสมัยเด็กๆ ที่เรียกกันว่า “แมงโม้”หรือไม่ ซึ่งก็คือข่าวลือที่ลอยไปเยอะแยะ ที่ผ่านมาทหารและ ตำรวจ รวมถึงรัฐบาล สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีการพูดคุยกันว่า ขณะนี้สถานการณ์ไม่ควรยกขึ้นไปประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับมีสื่อบางฉบับไปนำเสนอว่า ผบ.สส. ขออาสาเป็น ผอ.ศอฉ. ซึ่งเรื่องนี้มันตลก คือเมื่อเราแนะนำอย่างนี้แล้ว แล้วยังสมัครตัวเองเป็น ผอ.ศอฉ. อย่างนี้ตนเรียกว่า ข่าวแมงโม้ และถือเป็นเรื่องตลก
“ทุกคนมีสิทธิ์จะพูดถึง ทหาร และผบ.เหล่าทัพ แต่ใช่หรือไม่ใช่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราทำงานกันมา 2 ปีแล้ว ก็รู้ว่าใครอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ทหารเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เรายึดถือตามหน้าที่ ซึ่งช่วงที่เป็นวิกฤติของประเทศเราตรงนี้ ก็จะมีจุดโหว่ที่ให้ผู้ไม่หวังดี มิจฉาชีพ เข้ามาทำอะไรก็ได้ อันนี้เป็นผลเสียกับประเทศ และสุดท้าย คนแพ้คือประเทศไทย แต่จะให้ประเทศเราชนะก็ต้องพูดคุยกัน ทุกคนต้องทำในสิ่งที่อยากให้ประเทศไทยดี ให้ วิน-วิน แต่จะ วิน-วิน อย่างไรก็ต้องแล้วแต่ทุกท่าน แต่จะให้ผมพูดตรงนี้ผมคงไม่พูด ที่ผ่านมามีคนพูดเยอะแล้ว ต่อไปคือนำส่งที่คนเหล่านี้พูดมาทำให้เป็นรูปธรรม สื่อมวลชนเป็นครอบครัวเดียวกับทหาร ต้องช่วยกันให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปกติ"ผบ.สส.กล่าว
พล.อ.ธนศักดิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้บ้านเมืองกลับมามีความสงบ มีความสุข ซึ่งน่าเสียดายที่ประเทศเรามีวิกฤติทำให้อะไรหลายอย่างหายไป หากเราเร่งฟื้นฟูทุกอย่างก็จะกลับมาดีขึ้น เพราะหากหยุดนานๆ ก็เปรียบเหมือนร่างกายเป็นอัมพาตไปแล้ว นานไปก็ไม่มีประโยชน์จึงอยากให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม มีความรุ่งเรือง ทุกคนอยากกลับมาลงทุน และ มีความสุข
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า จะให้ตนตอบอย่างไร ในเมื่อมีข่าว มีแมงโม้เยอะ ถ้าพูดกันน้อยประโยชน์จะได้ต่อส่วนรวม ผลประโยชน์กลับสู่ประเทศชาติ ยืนยันว่า ทหารทำตามกฎ กติกา เพราะมีข้อบังคับอยู่ ถ้าทุกอยากให้ประเทศเป็นไปด้วยดี ก็ต้องว่าไปตามกติกา สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คือทุกคนอยากให้ประเทศชาติดี แต่ถ้าทุกคนออกนอกกติกาหมด รวมทั้งตนด้วยก็จะยุ่ง อาวุธและกระสุน มีความรุนแรง ถึงอย่างไรเราก็ต้องอยู่ในระเบียบวินัย เพียงแต่เราอยากให้ทุกคนคุยกันเพื่อให้ประเทศมาอยู่ในความสงบ
ด้าน พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลจัดประชุมหารือเกี่ยวกับการเลื่อนวันเลือกตั้งทั่วไปว่า ทางรัฐบาลได้มาขอใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยได้แจ้งว่าจะมีตัวแทนพรรคการเมืองและองค์กรที่เข้าหารือ 82 คน โดยได้แจ้งว่า มีส่วนของกระทรวงกลาโหม 1ที่นั่งและ กองบัญชาการกองทัพไทย 1 ที่นั่ง โดย พล.อ. ธนะศักดิ์ ได้ส่งตัวแทนไปร่วม และท่านได้เดินทางมาร่วมในการแข่งขัน การปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีประจำปี2557 ตามกำหนดการเดิม ผู้สื่อข่าวถามถึง การส่งต่อข้อความในโซเชี่ยลมีเดียที่อ้างถึงผบ. ทอ. จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศ พล.อ.อ. ประจิน ปฏิเสธว่า เป็นข่าวลือ และน่าจะเป็นฝีมือของคนที่ต้องการให้เหล่าทัพทำเช่นนั้น
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเดินหน้าเลือกตั้งว่า เมื่อสองฝ่ายยังเห็นว่าต้องเดิน หน้าในการปฏิรูปโดยผ่านการเจรจาเพื่อให้เกิดโครงสร้างของคณะปฏิรูปซึ่งเป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย เพราะฉะนั้น โอกาสที่เหลืออยู่คงต้องเดินหน้าต่อในเรื่องของการเจรจา ไม่ว่าจะเป็น 2 หรือ 3 ฝ่ายที่จะมีใครเข้ามาร่วมด้วย เป็นโอกาสที่ดีกว่าจะไม่ได้พูดคุยกัน คิดว่าน่าจะมีการเจรจาเพื่อหาทางออกได้ใน1-2 วันนี้โดยตนดูจากกำหนดการของ รัฐบาล และ กกต.ที่เห็นว่าจะมีการปรึกษาหารือเรื่องเลือกตั้ง หากมีทางออกที่ดี และ ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันก็น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และ คลี่คลายลง ส่วนทหารยังคงทำหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลสถานที่ราชการตามที่ได้รับมอบหมายตามกฎหมาย หากจะมีภารกิจ นอกเหนือจากนี้ก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งที่ถูกต้อง ตามกฎ กติกาที่กระทรวงกำหนด ทั้งนี้ จุดยืนของผบ.เหล่าทัพต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังเหมือนเดิมที่เราพูดคุยกันเมื่อวันที่ 1มค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ผบ.สส. ยังไม่ได้นัดประชุมหารือแต่อย่างใด เชื่อว่าประเทศยังไม่ถึงทางตัน ยังมีทางที่จะเดินไปต่อ ทั้งนี้ สถานการณ์การชุมนุม ได้ให้หน่วยข่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เท่าที่รับรายงานมายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ที่มา http://www.khaosod.co.th
