ผบก.น.1.เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีที่ รถยนต์แหกด่านตรวจของ การ์ด กลุ่ม กปปส.
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริพัตรกุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีที่ รถยนต์แหกด่านตรวจของ การ์ด กลุ่ม กปปส.เวทีอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณถนนพญาไท ใต้สถานีรถไฟฟ้า ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กฉ 5906 ตรัง จอดทิ้งไว้บริเวณใต้ทางด่วน พบมีรอยกระสุนปืน 2 นัด บริเวณป้ายทะเบียนด้านหลัง และซุ้มล้อหลัง และยังสามารถควบคุมตัวนางสาวอรวรรณ จาบกัน อายุ 27 ปี ที่นั่งมากับรถยนต์คันดังกล่าว
โดยจากการสอบปากคำ นางสาวอรวรรณ รับสารภาพได้รับว่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท ให้ขับรถคันดังกล่าวมาส่งให้กับลูกค้าย่านสะพานควาย ต่อมาลูกค้าให้ขับรถไปรับเพื่อนที่ซอยเพชรบุรี 12 ก่อนจะเดินทางกลับไปที่จังหวัดนครปฐม แต่ไม่ชินทางจึงใช้เครื่อง GPS นำทางขับเข้าถนนพญาไท จนกระทั่งเจอด่านตำรวจ และการ์ดผู้ชุมนุม กปปส. ด้วยความตกใจประกอบกับรถที่ขับมาเป็นรถรับจำนำอย่างผิดกฎหมาย จึงตัดสินใจขับรถฝ่าด่านแต่สุดท้ายไปไม่รอด จึงแยกย้ายหลบหนีส่วนตนก็ถูกจับกุม
ทั้งนี้ตำรวจยังตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของนางสาวอรวรรณ ซึ่งทราบภายหลังว่าได้เสพยาบ้า จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ
ส่วนความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลังเวทีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่ได้ในที่เกิดเหตุ รวมถึงจุดสุดท้ายที่คนร้ายทิ้งเสื้อผ้าไว้ก่อนหลบหนีไป ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอเทียบกับประวัติอาชญากร ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียว พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ ยอมรับว่ายังไม่มีผู้แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวคนร้าย ส่วนข้อมูลที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเพียงข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ จึงฝากถึงผู้ที่รับข่าวสารให้ใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา พร้อมกันนี้ยังประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนที่ทราบเบาะแสของคนร้าย ให้แจ้งข้อมูลมาที่ตำรวจ เพื่อจะได้ทำการจับกุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่การชุมนุม ได้มีการเพิ่มกำลังตำรวจอีกกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ 4 จุด เพื่อร่วมรักษาความปลอดภัยกับการ์ดของผู้ชุมนุม โดยตำรวจทุกนายจะแต่งกายเต็มยศ เพื่อความสบายใจในการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายให้ตำรวจพยายามทำความเข้าใจกับมวลชน และใช้ความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริพัตรกุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีที่ รถยนต์แหกด่านตรวจของ การ์ด กลุ่ม กปปส.เวทีอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณถนนพญาไท ใต้สถานีรถไฟฟ้า ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กฉ 5906 ตรัง จอดทิ้งไว้บริเวณใต้ทางด่วน พบมีรอยกระสุนปืน 2 นัด บริเวณป้ายทะเบียนด้านหลัง และซุ้มล้อหลัง และยังสามารถควบคุมตัวนางสาวอรวรรณ จาบกัน อายุ 27 ปี ที่นั่งมากับรถยนต์คันดังกล่าว
โดยจากการสอบปากคำ นางสาวอรวรรณ รับสารภาพได้รับว่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท ให้ขับรถคันดังกล่าวมาส่งให้กับลูกค้าย่านสะพานควาย ต่อมาลูกค้าให้ขับรถไปรับเพื่อนที่ซอยเพชรบุรี 12 ก่อนจะเดินทางกลับไปที่จังหวัดนครปฐม แต่ไม่ชินทางจึงใช้เครื่อง GPS นำทางขับเข้าถนนพญาไท จนกระทั่งเจอด่านตำรวจ และการ์ดผู้ชุมนุม กปปส. ด้วยความตกใจประกอบกับรถที่ขับมาเป็นรถรับจำนำอย่างผิดกฎหมาย จึงตัดสินใจขับรถฝ่าด่านแต่สุดท้ายไปไม่รอด จึงแยกย้ายหลบหนีส่วนตนก็ถูกจับกุม
ทั้งนี้ตำรวจยังตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของนางสาวอรวรรณ ซึ่งทราบภายหลังว่าได้เสพยาบ้า จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ
ส่วนความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลังเวทีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่ได้ในที่เกิดเหตุ รวมถึงจุดสุดท้ายที่คนร้ายทิ้งเสื้อผ้าไว้ก่อนหลบหนีไป ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอเทียบกับประวัติอาชญากร ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียว พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ ยอมรับว่ายังไม่มีผู้แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวคนร้าย ส่วนข้อมูลที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเพียงข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ จึงฝากถึงผู้ที่รับข่าวสารให้ใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา พร้อมกันนี้ยังประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนที่ทราบเบาะแสของคนร้าย ให้แจ้งข้อมูลมาที่ตำรวจ เพื่อจะได้ทำการจับกุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่การชุมนุม ได้มีการเพิ่มกำลังตำรวจอีกกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ 4 จุด เพื่อร่วมรักษาความปลอดภัยกับการ์ดของผู้ชุมนุม โดยตำรวจทุกนายจะแต่งกายเต็มยศ เพื่อความสบายใจในการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายให้ตำรวจพยายามทำความเข้าใจกับมวลชน และใช้ความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติหน้าที่
