หัวหน้าพรรครักประเทศไทยโพสต์เฟซบุ๊กระบุภายใต้สถานการณ์สับสนวุ่นวาย หาใครจริงใจไม่มี ที่พึ่งของประชาชนในยามนี้ต้องใช้คำว่า ตัวใครตัวมัน แต่อีกไม่กี่วันจะรู้กันว่าใครดีใครอยู่
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยโพสต์เฟซบุ๊กระบุภายใต้สถานการณ์สับสนวุ่นวาย หาใครจริงใจไม่มี ที่พึ่งของประชาชนในยามนี้ต้องใช้คำว่า ตัวใครตัวมัน แต่อีกไม่กี่วันจะรู้กันว่าใครดีใครอยู่ โดยข้อความระบุว่า
ใครดีใครอยู่
ภายใต้สถานการณ์สับสนวุ่นวาย หาใครจริงใจไม่มี ที่พึ่งของประชาชนในยามนี้ต้องใช้คำว่า "ตัวใครตัวมัน"
ชาวนากลายเป็นเพียง "ลูกข่าง" หมุนอยู่ในวงจรเครื่องมือแย่งชิงอำนาจ เรื่องคอรัปชั่นผิดถูกอย่างไร เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ดำเนินการ แต่ชาวนาต้องปากอ้าตาลอย คอยเงินจนท้องแห้ง เพราะฝ่ายหนึ่งยุให้ถอนเงิน อีกฝ่ายหนึ่งฝากเงินโชว์ ต่างฝ่ายต่าง "เกทับบลัฟแหลก" ดูสิว่าใครจะแน่กว่าใคร
ท้ายสุด ผอ.ธนาคารออมสินทนแรงกดดันไม่ไหว ต้องลาออก ขอยกเลิกปล่อยกู้ แล้วชาวนาจะเอาเงินที่ไหน?
ส่วนวันนี้ฆ่ากันตาย 3 ศพ มีทั้งประชาชนและตำรวจ ล้วนตกเป็นเหยื่อความสับสนของสถานการณ์ "ผ่านฟ้า" ที่ต้องสังเวยชีวิตกันอีกครั้ง
รัฐบาลเจียนไปเจียนมา ม็อบก็ปิดจ็อบไม่ลงเสียที องค์กรกลางอย่าง ป.ป.ช. ลงแส้ แจ้งข้อกล่าวหานายกฯยิ่งลักษณ์ ประชาชนไม่รู้จะบ่ายหน้าไปพึ่งใคร
ยามอาทิตย์อัสดงคงรู้แล้วว่า เมืองไทยยามนี้ใครดีใครอยู่ หมู่หรือจ่าอีกไม่กี่วันรู้กัน