วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โอ๊ค FB สุเทพฯจะตั้งคนเข้าไปในสภาฯ ปชช.ก็ย่อมไม่ยอมเช่นเดียวกัน

โอ๊ค FB สุเทพฯจะตั้งคนเข้าไปในสภาฯ ปชช.ก็ย่อมไม่ยอมเช่นเดียวกัน


พานทองแท้ ชินวัตร  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ  ประชาชนจะออกไปเลือกตั้ง สุเทพฯและกปปส.ก็ไม่ยอมให้ไปเลือก  ดังนั้น เมื่อสุเทพฯจะตั้งคนเข้าไปในสภาฯ ประชาชนก็ย่อมไม่ยอมเช่นเดียวกัน  โดยระบุข้อความดังนี้ 
 
 
"ประชาชนจะออกไปเลือกตั้ง สุเทพฯและกปปส.ก็ไม่ยอมให้ไปเลือก 
 
ดังนั้น เมื่อสุเทพฯจะตั้งคนเข้าไปในสภาฯ ประชาชนก็ย่อมไม่ยอมเช่นเดียวกัน" ครับ 
 
ถ้าคนอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สามารถตั้งสภาประชาชน โดยที่ไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชนได้ 
 
พี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ก็ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกับนายสุเทพฯ ในการเสนอชื่อบุคคลเข้าไปเป็นตัวแทนของเขา ในสภาฯด้วยเช่นกัน
 
 
"จนป่านนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ฝั่งกำนันสุเทพฯจะเสนอใครมาบริหารประเทศ เสนอใครเป็นสภาประชาชน แต่ฝั่งประชาธิปไตยมีคนส่งรูปนี้มาให้ผมดู มีการเสนอบุคคลต่างๆที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งรวมถึงพานทองแท้ มาเป็นคู่แข่งแล้วครับ" 555555
 
 
ในเมื่อนักการเมือง ไม่เคารพสิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชน แทนที่จะเสนอตัวเป็นทางเลือก เพื่อให้พี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนน แต่กลับไปกีดกันขัดขวาง ไม่ยอมให้พี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง บ้านเมืองจึงวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้
 
และที่จะเป็นปัญหาเกิดขึ้นต่อเนื่องไปไม่รู้จบก็คือ เมื่อคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม มีความคิดเห็นในการเลือกตัวแทนแตกต่างกัน แล้วในที่สุดบุคคลที่เหมาะสมที่สุดจะเป็นใคร?? นานาอารยประเทศเขาจึงต้องมีกฏ กติกา มารยาท ในการตัดสินใจเลือกตัวบุคคล ที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด เข้าไปทำหน้าที่อันสำคัญเช่นนี้ มิใช่ให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด โดยเฉพาะนักการเมือง ที่มีประวัติด่างพร้อยมาชั่วชีวิต เป็นคนตัดสินใจเลือกแทนพี่น้องประชาชนอย่างนี้
 
 
และปัญหาที่เกิดจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน แล้วยังไม่เคารพกติกาที่มีแบบนี้ ก็คือการเข่นฆ่ากันของมนุษยชาติ ในทุกภูมิภาคของโลก เป็นพฤติกรรมมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่อดีต ไปจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าเขาจะตั้งชื่อและเรียกพวกตัวเอง ให้ดูดีเป็นประชาธิปไตยแค่ไหน ในเมื่อคุณไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่เคารพกติกาบ้านเมือง ในเนื้อแท้ของคุณก็คือ กลุ่มบุคคลที่สร้างแต่ความขัดแย้ง ความรุนแรง จากพื้นฐานความคิดที่เข้าข้างตัวเอง คอยแต่จะขัดขวางคนที่คิดต่าง ล้วนแล้วแต่เป็นการไม่เคารพในสิทธิของผู้อื่นทั้งสิ้น 
 
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของมนุษย์เช่นนี้ ในที่สุดจึงได้ก่อเกิดเป็นคำว่า การโหวต การลงมติ การเคารพเสียงส่วนใหญ่ และเมื่อพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุด จึงกลายเป็นคำว่า "ระบอบประชาธิปไตย" ซึ่งเครื่องมือที่สำคัญที่สุด ของระบอบประชาธิปไตยคือ "การเลือกตั้ง" ถือเป็นการให้เกียรติกับประชาชนอย่างสูงสุด เป็นการคืนอำนาจในการตัดสินใจที่ถือเป็นข้อยุติสุดท้าย ไปให้กับพี่น้องประชาชนเป็นรายบุคคล "One Man One Vote" ประชาชนมีสิทธิ์คิดและตัดสินใจร่วมกัน และเท่าเทียมกันทั้งประเทศ
 
ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก เขาตกผลึกกับเรื่องนี้มาเป็นสิบๆปีแล้วครับ รวมถึงอีก9ประเทศในอาเซียน เขาก็มีพัฒนาการทางด้านประชาธิปไตยก้าวหน้าไปไกลแล้ว คงเหลือแต่ประเทศไทยประเทศเดียวนี่แหละ ที่ขนาดพรรคการเมืองเก่าแก่ถึงกว่า60ปี ยังบอยคอตเลือกตั้ง สส.ลาออกมานำม็อบ เล่นการเมืองข้างถนน แทนที่จะทำงานในสภาฯ 
 
ในขณะที่พรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งกัน ร่วมสี่-ห้าสิบพรรคฯ ทุกพรรคฯเขาเห็นด้วยกับการเลือกตั้ง มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่บอยคอตไม่ยอมลงเลือกตั้ง มีปัญหากับกติกาการเลือกตั้งอยู่เพียงพรรคเดียว จึงเกิดคำถามต่อเนื่องกลับไปว่า ที่บ้านเมืองเรามีปัญหาวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคนี้พรรคเดียวใช่หรือไม่? 
 
คนบางกลุ่มอาจคิดเข้าข้างตัวเอง และคิดว่าการป่วนบ้านทำร้ายเมือง จับเอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และการรอเงินจากการจำนำข้าวของชาวนา เป็นตัวประกันแล้วจะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น และรัฐบาลจะดูแย่ลง คิดไปเองว่าประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่า รัฐบาลบริหารงานผิดพลาดทำให้พี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อน เปล่าเลยครับ คิดผิดคิดใหม่ได้เลย พี่น้องประชาชนเค้าฉลาดกว่าที่คุณคิดเยอะครับ 
 
รู้ตัวว่าทำผิดแล้วยังฝืนทำต่อไป จะต้องเสียใจภายหลังนะครับ พรรคประชาธิปัตย์..!!
 
 
 
เครดิตภาพ : instagram
voicetv.co.th

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา