พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ลั่นไม่ยอมให้เกิดเหตุรุนแรง สั่งทหารเตรียมพร้อมดูแลสถานที่ราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในกองบัญชาการกองทัพบกได้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยด้วยการขึงรั้วลวดหนามเพิ่มบริเวณด้านหน้าสนามหญ้า ตึกบัญชาการการ และประตูด้านหลังกองบัญชาการกองทัพบก รวมทั้งได้มีการจัดชุดรักษาความปลอดภัยคอยลาดตระเวนและเตรียมความพร้อมอยู่ตามจุดหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งได้นำสุนัขทหารออกมาประจำการและมีการตรวจตรารถยนต์ที่เข้า-ออกภายในกองทัพอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก(ศปก.ทบ.) ได้มีการประกาศผ่านเสียงตามสายว่า ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.เป็นต้นไปให้กำลังพลภายในกองทัพบกแต่งกายชุดพลเรือนที่สุภาพแทนเครื่องแบบทหารมาทำงาน เพื่อให้กำลังพลเกิดความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่า มีผู้ไม่หวังดีหรือกลุ่มมือที่สามจะมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อโยงให้เป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้ทางกองทัพบกยังมีนโยบายให้ลดจำนวนกำลังพลในการเข้ามาทำงานภายในกองทัพบก โดยให้หมุนเวียนสลับการเข้ามาทำงานเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
วันเดียวกัน พล.ท.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ผบ.นปอ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลของหน่วยที่ส่งเข้าดูแลความปลอดภัยที่จุดบริการร่วมตำรวจทหาร แยกหลักสี่ โดยพล.ท.วีรัณ กล่าววว่า ทางผบ.ทบ.เป็นห่วงสถานการณ์ และเป็นห่วงประชาชน โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยดูแลความปลอดภัย เน้นหลักสันติวิธี และปฏิบัติตามข้อบังคับ และไม่ยอมให้เกิดความรุนแรงโดยเด็ดขาด ซึ่งทุกครั้งผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำข้อปฏิบัติเหล่านี้กับผู้บังคับหน่วยอยู่เสมอ ทั้งนี้การมาปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นการบูรณาการร่วมกัน ทหารเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามคำสั่งของ ศอ.รส. และต้องทำงานภายใต้กฎ ระเบียบทางราชการ พร้อมชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจจุดยืนของกองทัพ อย่างไรก็ตาม ทางนปอ. ได้จัดกำลัง 9 กองร้อยในการดูแลสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ และบริเวณจุดบริการประชาชน แยกหลักสี่ แยกปทุมวัน โรงงานผลิตน้ำดื่มสามเสน และกำลังพลจะมีเพียงโล่และกระบอง พร้อมเสื้อเกราะเท่านั้น ทั้งนี้หากเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ทหารก็จะเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นก่อน
ที่มา : News Center / siamrath
ภาพ : VoiceTV