องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มประชุมพิจารณา คำร้อง กรรมการการเลือกตั้ง เรื่องเลื่อนวันเลือกตั้งแล้ว สื่อเกาะติดจำนวนมาก
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มมีการประชุมพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจระหว่างองค์กร ในการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ หลังจากที่ทาง กกต. มองว่า การเลือกตั้งตามพระราชกฤษฎีกา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ มีอุปสรรคและปัญหาหลายประการ
ทั้งนี้ ยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในกรณีที่หากมีเหตุจำเป็นนั้นจะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การประชุมพิจารณาขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ ที่ประชุมจะมีการอภิปรายและแถลงความเห็นด้วยวาจา ก่อนจะลงมติในคำวินิจฉัย โดยผลการประชุมนั้น จะมีการเผยแพร่ให้ทราบต่อไป
ขณะที่ บรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้ เนืองแน่นไปด้วยสื่อมวลชนหลากหลายสำนัก ที่ต่างเดินทางมาเฝ้าติดตามทำข่าวในประเด็นนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจาก เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวันเลือกตั้ง และอยู่ในความสนใจของประชาชน
'สมชัย' รอคำตัดสินศาล รธน.ชี้ขาดปมลต.
รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในคำร้องข้อแรกที่ยื่นไป คือ หากมีเหตุจำเป็นหรือเลือกแล้วไม่เกิดผลดี ไม่ใช่ทางออกของประเทศ สิ้นเปลืองงบประมาณ จะสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่ ก่อน ส่วนข้อ 2 นั้น มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะเป็นผู้ดำเนินการ
รศ.สมชัย กล่าวด้วยว่า จากสาเหตุในขั้นต้น คือ เหตุผลที่ กกต. พยายามนัดหมายที่จะหารือกับรัฐบาล แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งหลังจากนี้ ก็ต้องรอคำตัดสินของศาล เพราะอาจจะช่วยทำให้รัฐบาลยอมที่จะมาหารือกับ กกต. อีกครั้ง
ทั้งนี้ รศ.สมชัย กล่าวว่า แม้จะจัดให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ก็จะมีปัญหายุ่งยาก เพราะจะได้ ส.ส. ไม่ครบ 95% ซึ่งไม่สามารถเปิดสภาได้ เนื่องจาก 22 เขต มีผู้สมัครรายเดียว, 28 เขต ไม่มีผู้สมัคร รวมถึง จะไม่สามารถรวมคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อได้
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมการเลือกตั้ง ในจังหวัดภาคใต้ พบว่า มีปัญหาค่อนข้างหนัก มีการชุมนุมคัดค้านค่อนข้างรุนแรง ไม่ได้รับความร่วมมือจากท้องถิ่นในการจัดเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย แต่ กกต.ในแต่ละจังหวัด จะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาต่อไป
ที่มา innnews.co.th