นายโทมัส ฟูลเลอร์ ผู้สื่อข่าวจากนิวยอร์กไทม์ เผยแพร่บทความข่าวเมื่อวันที่ 7 ม.ค. พาดหัวว่า 308 Thai Officials Face Anticorruption InquiryŽ กล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหากับ ส.ส. และส.ว. ที่เป็นผู้เสนอร่างและลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว. ทั้งหมด 308 คน ว่าการกระทำดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เนื่องจากส.ส.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้นส่วนใหญ่มาจากพรรคเพื่อไทย และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. ที่จะถึงนี้
นายฟูลเลอร์ยังเปรียบเทียบว่า หากเกิดกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงที่มาของส.ว. จากการสรรหาครึ่งหนึ่งไปเป็นการเลือกตั้งทั้งหมดในประเทศอื่นนั้น จะได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นการยกระดับความเป็นประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยกลับถูกพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. รวมถึงองค์กรการเมืองที่สำคัญมองว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของพรรครัฐบาล ก่อนจะกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มองว่าระบบ ส.ว.แต่งตั้ง ซึ่งเป็นผลพวงจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 นั้น จะเป็นกลไกสุดท้ายในการยับยั้งอำนาจของพรรคเพื่อไทย
บทความระบุ การแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของส.ว. ผ่านการเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา จากกระบวนการแก้ไขที่ไม่สุจริต เนื่องจากมีการเสียบบัตรแทนกัน
ที่มา news.sanook.com
