"ณัฐวุฒิ" หวั่นใจ! โดนกิน 3 ต่อเข้าฮอส วอนยึดกติกาเดินหน้าสู่สันติภาพ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์รายการ " เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ " ทางสปริงนิวส์ กรณี การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลซึ่งเมื่อประกาศไปแล้ว บังคับใช้ไม่ได้ ถูกท้าทายทุกวัน เจ้าหน้าที่ของรัฐทำอะไรไม่ได้ ในทางการเมืองแบบนี้ ถือเคานท์ดาวน์ว่า เรื่องนี้ประเมินกันอยู่แล้วในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนตั้งข้อสังเกตกับที่ประชุมว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้ กลไกลต่างๆ ต้องพร้อมปฏิบัติ และบังคับใช้กฎหมายแล้วทันที ส่วนการที่ประกาศก็จะถูกท้าทายอย่างเข้มข้นทันที แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่ดำเนินการ ยืนยันว่า ได้คิดอ่านเตรียมการกันพอสมควร ทั้งนี้ ต้องให้เวลาของฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการก่อน

เมื่อถามว่า เตรียมมาตรการไว้อย่างไรที่สามารถทำได้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทางฝ่ายที่ดำเนินการในการใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ ต่างจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศบังคับใช้ ซึ่งความเคยชินถ้าประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหารจะต้องออกยืนข้างหน้า ต้องมีท่าทีคึกคักเข้มแข็งจากฝ่ายของกองทัพ แต่ด้วยปัจจัย หรือความเป็นจริงของสถานการณ์ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล ณ ปัจจุบัน ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นแม่งานหลักอยู่เหมือนเดิม ฝ่ายการเมือง มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เข้าไปกำกับรับผิดชอบโดยตรง ภาพเหล่านี้ เป็นภาพที่ต่างจากความรู้สึกต่างจากความเข้าใจของคนในสังคม

"ผมถือว่าตรงนี้ยังมีเวลา ต้องมีท่าทีคึกคักจากฝ่ายกองทัพ ซึ่งยังมีเวลาที่ให้ฝ่ายคณะทำงานที่รับผิดชอบได้ขับเคลื่อน"

นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ทั้งนี้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้ามีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สามารถควบคุมได้โดยอำนาจของ พ.ร.ก.ฉบับนี้ 30 วัน ในสถานที่ของตำรวจ ปกติเดิมถ้าไม่มีกฎหมายนี้ เวลามีการจับกุม จะต้องมีการส่งศาล ถ้าศาลพิจารณาแล้วว่าควรได้รับการประกันตัว มีการประกันตัวแล้วกลับที่ชุมนุมอีก เป็นต้น แต่เรื่องห้ามชุมนุมกัน 5 คน มันไม่มีพ.ร.ก.ฉบับไหนของรัฐบาลชุดไหนทำได้ผล

นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ในการทำหน้าที่ ต้องให้คนที่คิด ที่รับผิดชอบภารกิจเป็นด้านหลัก ส่วนเราติดตามสังเกตการณ์ เวลานี้ สถานการณ์ มันต้องดูภาพรวมทั้งหมด ดูแต่ พ.ร.ก.ฉบับเดียวไม่ได้ เพราะท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ก็เป็นประเด็นใหญ่ว่า เราจะเดินไปถึงวันที่ 2 ก.พ.หรือไม่ แล้วถ้าเดินไปไม่ถึง สถานการณ์ของประเทศจะเป็นอย่างไร

"ตั้งแต่แรกที่ผมแสดงความเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผมบอกว่า ผมเป็นห่วงว่า ถ้าเดิน พ.ร.บ.นั้น เราจะโดนกิน 3 ต่อเข้าฮอส วันนี้ 2 ต่อกินแล้ว กิน พ.ร.บ. กินรัฐบาล ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญเกิดชี้ โดยผมไม่มองไม่เห็นข้อกฎหมายว่าชี้ได้ แต่ถ้าเกิดไปชี้ว่ารัฐบาลมีอำนาจในการเลื่อนการเลือกตั้ง จะทำให้สถานะของพรรคเพื่อไทย สถานะของการเลือกตั้ง ก็จะลำบากลงไปอีก ดังนั้น พอกิน3 ต่อเสร็จ มันสำคัญตรงจังหวะเข้าฮอส ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเลือกเข้าฮอสแบบไหน"

นายณัฐวุฒิ ระบุว่า สำหรับตนนั้นมีความมั่นใจ ถ้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. หยุดตั้งแต่รัฐบาลยุบสภา สถานการณ์จะไม่เป็นแบบนี้ แต่ขณะนี้ กลายเป็นว่ากลุ่มของนายสุเทพ และผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหลาย กำลังยัดเยียดความชอบธรรมทางการเมืองให้กับรัฐบาลนี้ตลอดเวลา ทำให้รัฐบาลนี้ซึ่งต้องยอมรับว่า บอบซ้ำมาตั้งแต่ก่อนยุบสภา กลับมีความเข้มแข็งมากขึ้น ขอเรียนว่า ตอนที่เราเดินกันอยู่ หมากในกระดานวันนั้นเป็นเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มันมีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังนายสุเทพ และเห็นเกมทั้งกระดาน แต่เวลานี้กลุ่มนั้นกระโดดลงมาเป็นผู้เล่นเอง ทำให้ประชาชนที่ดูเกมอยู่ เห็นทั้งกระดานเหมือนกัน ดังนั้น มันไม่จบง่ายๆ ไม่จบสั้นๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ว่านายสุเทพ จะมีอำนาจถึงขั้นตั้งสภาประชาชนและตั้งนายกรัฐมนตรี อย่างที่พูดกัน

เมื่อถามว่า ในที่สุดเกมจะโอเวอร์ด้วยกัน ทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า " ผมเชื่อว่า มีความคิดนั้นในจังหวะเข้าฮอส คือ มีความคิดที่จะเช็คบิลแบบนั้นมี แต่ผมเห็นว่า ถ้าคิดและทำแบบนั้นจริงๆ เป็นการเข้าฮอสที่ไม่สามารถไปสู่ความสำเร็จได้ ผมไม่ได้พูดในฐานะที่ผมอยู่ในรัฐบาลนี้ แต่ผมพูดในฐานะที่ผมเป็นคนไทย และผมเห็นการเมืองนาน สิ่งที่จะทำให้ปลายทางคือสันติภาพจริง มันต้องยึดกติกาเอาไว้ให้อยู่ ถ้าไปเบรกทั้งสองข้าง ก็เท่ากับว่าได้ทำลายกติกาทั้งหมดของประเทศลงด้วย แล้วถ้าถึงวันที่มันไม่มีระบบ ไม่มีกติกา มันไม่รู้จะหาสันติภาพตรงไหน ส่วนความคิดที่สองก็คือ อาจจะยาแรง ถึงรัฐประหาร ถ้าเป็นเช่นนั้น ปัญหามันจะใหญ่ มันเหมือนกับเลือกว่าจะโยนหินก้อนไหน ลงในแม่น้ำ ถ้าโยนหินก้อนใหญ่ แรงกระเพื่อมมันก็จะแรง แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่า ถ้าหากมีการพูดคุยกัน แล้วตกลงร่วมกันว่า เราจะเดินไปภายใต้กรอบกติกา ตรงนี้คือทางออกที่ดีที่สุด แล้วไม่มีทางไหนที่จะทำให้สังคมไทย ยับยั้งชั่งใจกันก่อนที่จะเผชิญหน้าเท่ากับการรักษากติกาไว้ "

ที่มา: http://www.komchadluek.net

Posted in: