นายกฯ นั่งหัวโต๊ะติดตามงานท่องเที่ยว ย้ำท่องเที่ยวสำคัญต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ต้องเร่งสร้างความเข้าใจต่างประเทศขับเคลื่อนเป้าท่องเที่ยว
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานภายหลังการเลือกตั้งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยได้กล่าวว่างานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นเพราะมีความเกี่ยวข้องกับการดูแลนักท่องเที่ยว การประชุมในครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการหารือถึงปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงานเพื่อให้มีแนวทางในขับเคลื่อนงานของกระทรวงต่อไปได้
จากนั้นนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณได้อธิบายถึงวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณรายจ่ายอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร แล้วที่ประชุมได้เปิดให้มีการรายงานผลการดำเนินการของกระทรวง ซึ่งปรากฏว่าผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้สืบเนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมซึ่งทำให้ต้องเลื่อนกิจกรรม หรือโครงการบางอย่างออกไป อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงไม่มีปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณแต่อย่างใด
ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานด้านกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการคุ้มครองดูแลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างงยิ่งในด้านกระบวนการพิจารณาคดีอาญาของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวว่าภาครัฐมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ โดยเร็ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อสื่อสาร สร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ประกาศแนะนำพลเมืองเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย รวมทั้งดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวพร้อมกับให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ตลอดจนขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เวลาในช่วงนี้ในการวางแผนเพื่อวางแนวพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงทั้งทางด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นใหม่ การจัดทำแผนแม่บทเพื่อบริหารพื้นที่พิเศษ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งมรดกโลก ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ให้กระทรวงการท่องเที่ยววางแนวเพื่อพัฒนาการให้บริการในสนามบินของหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นแบบ One-Stop Service ต่อไป
