วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

"ยิ่งลักษณ์" วอน "กปปส." หยุดไล่ล่า ให้เคารพสิทธิส่วนบุคคล




น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหมและประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษว่า ในการประชุมสภากลาโหมเป็นวาระการประชุมวาระตามปกติ ได้มีการรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ต่างๆ

เมื่อถามว่า วันนี้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าใจการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ของรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเราได้ชี้แจงไปแล้วว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานขั้นตอนและตามกฎหมาย จึงเป็นที่มาให้ ครม.เห็นชอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบขึ้นตรงกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะเราเน้นการดำเนินการตามขั้นตามกฎหมายมากกว่าการใช้กำลังทหาร ขณะเดียวกัน เราได้บูรณาการกำลังของทหารเข้ามาเช่นเดิม และได้มีการขอความร่วมมือกับทางเหล่าทัพในการเตรียมหน่วยแพทย์พยาบาลต่างๆ และการดูแล รวมถึงการพิจารณาตั้งจุดตรวจร่วม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งได้มีการเน้นย้ำเช่นเดิม นอกจากนี้ ครม.ยังเน้นย้ำกับหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานของ ศรส.ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละมุนละม่อมและขั้นตอนต่างๆ ให้ยึดหลักกฎหมาย การดำเนินการต่างๆ อย่าให้ลุแก่อำนาจหรือเกินความเป็นจริง

เมื่อถามว่า ถึงขณะนี้ทางกองทัพพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องกำลังพล นายกฯกล่าวยอมรับว่า ใช่ ในเรื่องของกำลังพลนั้น ก็เป็นไปตามที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ร้องขอ เช่นเดียวกับการทำงานของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)

นายกฯกล่าวว่า ในส่วนของการเลือกตั้ง ในที่ประชุมได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่มีการร้องขอเข้ามา รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานภาพของตนเอง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือไม่ หลังกลุ่ม กปปส.ประกาศไล่ล่าจับตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ทุกคนต้องมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลนั้น ก็ขออนุญาตให้นึกถึงขั้นตอนสิทธิแต่ละคน เพราะคงไม่มีใครอยากเห็น การประกาศไล่ล่าจับตัวคนนั้นคนนี้รายวัน จึงอยากขอร้อง รัฐบาลเองก็อยากที่จะให้ช่วยกันหลีกเลี่ยงพูดจาให้เกิดความเกลียดชัง หรือความขัดแย้ง เช่นเดียวกับที่ทาง ผบ.ทบ.พูดว่า เราจะโกรธจะเกลียดจะแรงกันไปถึงไหน วันนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว ให้หันหน้ามาพูดคุยกันเถอะ รัฐบาลก็พร้อมในการเปิดเวที ทุกประตู ทุกเวลา ในการพูดคุย ดิฉันเองก็อยากเห็นเช่นเดียวกัน และเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตัวเอง จึงอยากขอให้เคารพสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเถอะ และไม่เคยมีนายกฯคนไหนที่จะเจอขนาดนี้ ดิฉันเองก็ยอมรับว่าเราเองก็อดทน ก็ขอความเห็นใจจากผู้ชุมนุม ดิฉันพร้อมรับฟัง แต่บางอย่างก็ต้องให้ความเห็นใจ ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ก็ยินดีให้ความร่วมมือ วันนี้เราได้คืนอำนาจให้ประชาชนแล้วด้วยการยุบสภา ส่วนในสิ่งที่ผู้ชุมนุมร้องขอ ไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่าดิฉันไม่ใช่คนดื้อรั้น ไม่ยอมรับฟังอะไรเลย แต่บางอย่างไม่สามารถปฏิบัติเองได้ก็ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาช่วยและพูดคุยกันดีกว่า น่าจะเป็นทางออก"

เมื่อถามว่า วันนี้ดูเหมือนว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯกล่าวว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย รัฐบาลไม่ต้องการที่จะพูดว่าออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาเพื่อให้เกิดการท้าทาย ย้ำอีกครั้งว่า ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาเพื่อเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ดำเนินงาน และยืนยันอีกครั้งรัฐบาลไม่ต้องการเห็นภาพที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2553 จึงย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนระมัดระวัง อย่าใช้สิ่งที่เกินความจำเป็น โดยให้เริ่มขั้นตอนด้วยการเจรจาพูดคุย ก็จะพยายามรักษาจุดยืนตรงนี้ไว้ โดยใช้กฎหมายเป็นหลัก

นายกฯยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาในโครงการรับจำนำข้าวว่า เพิ่งได้รับหนังสือจาก กกต. ก็จะมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน --จบ--

ที่มา : www.matichon.co.th

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา