วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รวบแล้ว! โจ๋ชิงทรัพย์บนสะพานลอยข้าม ถ.วิภาวดีฯ

รวบแล้ว! โจ๋ชิงทรัพย์บนสะพานลอยข้าม ถ.วิภาวดีฯ


รวบแล้ว 2 คนร้ายตระเวนชิงทรัพย์ย่านดินแดง ห้วยขวาง สุทธิสาร รัชดา ตร.สุทธิสาร นำตัวสอบสวน-ขยายผล  พบเคยก่อคดีเพียบ 
 
 
หลังจากเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา นายเอกชาย ธนันไชย พนักงานบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ถูกคนร้ายใช้ขวานขนาดเล็กข่มขู่และชิงทรัพย์บนสะพานลอยข้ามถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณสถานีโทรทัศน์ NBT และสโมสรทหารบก หลังเลิกงาน ช่วงเวลาประมาณ 23.50 น. ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก 
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้  (13 ก.พ. 57) ที่สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว ผกก.สน.สุทธิสาร แถลงการจับกุมนายจิรภัทร หรือเต๋า สุนทรหก อายุ 18 ปี นายอัมรินทร์ หรือปืน จักรผัน อายุ 20 ปี พร้อมของกลางรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีขาวม่วง ทะเบียน 1กข 8457 ตรัง รถรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน ขลจ 699 อุบลราชธานี รถรถจักรยายนต์ยี่ห้อยามม่าฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม ขวานด้ามเล็กยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 ด้าม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง กระเป๋าสุภาพสตรี จำนวน 2 ใบ อุปกรณ์ในการเสพยา และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยจับกุมตัวได้ที่อาคารศรวิทย์ ซอยลาดพร้าว 62 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. 
 
 
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการมั่วสุมยาเสพติดกัน ที่อาคารศรวิทย์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบวัยรุ่นหญิง 2 คน ชาย 5 คน และรถรถจักรยายนต์จำนวน 3 คัน จากการตรวจสอบพบว่ารถรถจักรยายนต์ดังกล่างตรงกับรถรถจักรยายนต์ที่เคยใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ สน.ดินแดง , สน.ห้วยขวาง และสน.สุทธิสาร จำนวนหลายครั้ง   จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายจิรภัทรและนายอัมรินทร์  ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้เคยก่อเหตุตระเวนชิงทรัพย์ ในหลายพื้นที่ โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2557เวลาประมาณ 23.50. น. ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์นายเอกชาย ธนันไชย อายุ 23 ปี ขณะกำลังเดินอยู่บนสะพานลอยข้ามถนนวิภาวิดีรังสิต หน้าเอ็นบีที  นายอัมรินทร์ ได้ใช้ขวานจี้ชิงทรัพย์กระเป๋าสะพาน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 19,200 บาท ก่อนซ้อนรถจักรยายนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม. ที่นายจิรภัทร ติดเครื่องรอไว้ก่อนหลบหนีไป 
 
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2557 เวลาประมาณ 21.10 น. ขณะที่นางสาวศิริพร เต็งสุทธิวัฒน์ อายุ 23 ปี ยืนอยู่บริเวณใกล้ปากซอยรัชดา 15 นายอัมรินทร์  ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และใช้มือล้วงชายเสื้อของตนโดยอ้างว่าตนมีปืน พร้อมขู่เอาทรัพย์สินของนางสาวศิริพร ได้ทรัพย์สินเป็นมือถือยี่ห้อซัมซุงโน๊ต 2  จำนวน 1 เครื่องนาฬิกายี่ห้อคาซิโอ 1 เรื่อน และเงินสดจำนวน 600 บาท ก่อนซ้อนรถจักรยายนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม. ที่นายจิรภัทร ติดเครื่องรอไว้ก่อนหลบหนีไป
 
 
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวต่อว่า ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2557 เวลาประมาณ 04.40 น. ขณะที่นางสาวโยสิยาห์ อายุ 32 ปี ได้ยืนรอรถประจำทางอยู่ที่บริเวณหน้าอาคารหัตถเวช ถนนวิภาวดีรังสิต นายจิรภัทรได้ขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม. โดยมีนายอัมรินทร์เป็นผู้ซ้อนทาย เมื่อพบเหยื่อ นายอัมรินทร์ได้ใช้อาวุธมีดขู่บังคับเหยื่อ โดยได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เงินสดจำนวน 400 บาท ก่อนซ้อนรถจักรยายนต์หลบหนีไป และครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.  ขณะที่นางสาวเฌอมาลย์ ถังทอง อายุ 18 ปีและนางสาวณิชากร ตามประดิษฐ์ อายุ 18 ปี ได้ขับขี่รถรถจักรยายนต์มาถึงกลางซอยลาดพร้าว 4 นายจิรภัทร ได้ขับขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม.  ส่วนนายอัมรินทร์ ได้ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีขาวม่วง ทะเบียน 1กข 8457 ตรัง โดยขับตามเหยื่อมาจนถึงที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขี่รถจักรยายนต์ประกบเหยื่อให้จอดร ก่อนขู่บังคับบ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 จำนวน 1 เครื่อง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อพูม่า  1 เรือน เงินสดจำนวน 6,000 บาทก่อนพากันขี่รถจักรยายนต์หลบหนี
 
 
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวอีกว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่าได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่ามาหลายครั้งแล้ว โดยจะนำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายให้กับนายต้น ซึ่งนายต้นจะให้มาเป็นเงินหรือยาเสพติด หากเป็นยาเสพติดตนจะนำยาเสพติดดังกล่าวมาเสพร่วมกัน หากได้เป็นเงินจะนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองจะเลือกกระทำในท้องที่ พหลโยธิน วิภาวิดีรังสิต ห้วยขวาง และรัชดาภิเษก เนื่องจากเป็นพื้นที่ละแวกบ้านของผู้ต้องหาซึ่งอาศัยอยู่ในย่านดินแดง โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะมีความชำนาญในเส้นทางดังกล่าว และจะเลือกเหยื่อโดยดูจากลักษณะการแต่งตัวดูมีฐานะ 
 
 
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่า นายจิรภัทร ยังเป็นผู้ต้องหาในคดีตามเหมายจับศาลเยาวชนและรอบครัวกลางที่ 415/2556 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่นฯ และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านฯ อีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้ศาลเยาวชนดำเนินคดีต่อไป  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายจิรภัทรและนายอัมรินทร์ ในข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ" ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพื่อขยายผลและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังเคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ห้วยขวาง ในลักษณะแผนประทุษกรรมเดียวกันอีกหลายคดี ด้านผู้ต้องหาอีก 5 คนที่จับกุมได้ในตอนแรก ได้แจ้งข้อหา "เสพยาเสพติด" พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
 
 
 
 
 
 

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา