วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

'ชูวิทย์' ชี้ ม็อบไม่ไปปิดศาลาว่าการกทม. เพราะเลือกที่รักมักที่ชัง

'ชูวิทย์' ชี้ ม็อบไม่ไปปิดศาลาว่าการกทม. เพราะเลือกที่รักมักที่ชัง


"ชูวิทย์" โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ สถานที่เดียว ที่ม็อบไม่เคยไปปิดล้อม คือ "ศาลาว่าการกทม." ชี้เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง เล่นการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก  ฝั่งไหนเป็นประโยชน์กับพรรคตัวเองไม่แตะต้อง ฝั่งไหนเป็นของพรรคตรงข้ามก็ตามย่ำยี
 
 
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย  โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า  สถานที่เดียว ที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคยไปปิดล้อมคือ "ศาลาว่าการกทม." ซึ่ง "ม.ร.ว.สุขุมพันธ์  บริพัตร"พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงค์ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อยู่  เพราะไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย จึงไม่เคยไปปิด สั่งให้ราชการออก เอาโซ่ไปคล้อง โดยเป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง เล่นการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก ฝั่งไหนเป็นประโยชน์กับพรรคตัวเองไม่แตะต้อง ฝั่งไหนเป็นของพรรคตรงข้ามก็ตามย่ำยี  โดยข้อความดังกล่าวมีดังต่อไปนี้ 
 
 
ที่ม็อบไม่ยอมไปปิด
 
กลยุทธ์ปิดล้อมของ ม็อบ กปปส. เป็นไปอย่างสะเปะสะปะ นึกอยากจะไปปิดที่ไหนก็ไป โดยไม่มีแผนการณ์รองรับและต่อเนื่อง วันก่อนไปปิด "กรมชลประทาน" สั่งให้ข้าราชการทุกคนออกมาจากตึก แล้วคล้องโซ่ปิดประตู ไม่ยอมให้ใครทำงาน
 
แล้วบรรดาเกษตรกรชาวนาจะไปเอาน้ำที่ไหน? ใครจะเป็นคนวางแผนให้? เพราะกรมชลประทานมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมวางแผนจัดสรรน้ำให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ คุณคิดว่าทำอย่างนี้ฉลาดหรือโง่? เท่ากับทำร้ายเกษตรกรไทยทั้งประเทศ ไหนบอกว่าเห็นใจชาวนา อย่างนี้เท่ากับไปฆ่าชาวนาชัดๆ
 
แกนนำประกาศทุกวี่ทุกวัน "ชัตดาวน์กรุงเทพฯ" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที เพราะไปปิดสารพัดที่ ไม่ว่ากระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เลยเถิดไปถึงกรมการกงสุล สถานที่ทำพาสปอร์ต ไปทำร้ายประชาชนให้เดือดร้อนเข้าไปอีก 
 
ไม่เห็นรัฐบาลจะ "เดือดเนื้อร้อนใจ" ตรงไหน แต่เกษตรกรยันประชาชนเขาเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า 
 
สถานที่เดียว ที่ม็อบไม่เคยไปแตะต้อง อันเป็นหัวใจของการชัตดาวน์กรุงเทพฯคือ "ศาลาว่าการกทม." ที่เสาชิงช้า อู่ข้าวอู่น้ำของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่ที่คุณสุขุมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงค์ตำแหน่งผู้ว่าฯอยู่ ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย จึงไม่เคยไปปิด สั่งให้ราชการออก เอาโซ่ไปคล้อง เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง เล่นการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก ฝั่งไหนเป็นประโยชน์กับพรรคตัวเองไม่แตะต้อง ฝั่งไหนเป็นของพรรคตรงข้ามก็ตามย่ำยี
 
ปากบอกจะหานายกฯคนกลางมาปฏิรูป ทำแบบนี้จะปฏิรูปไหวหรือ? เห็นชัดๆว่าปกป้องแต่ผลประโยชน์ของพรรคตัวเอง คนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ดูหมากการเมืองไม่ออก ต้องให้ชูวิทย์มาบอก
 
ส่วนที่ม็อบประกาศให้ตำรวจเร่งจับคนยิง ปาระเบิดทำร้ายม็อบ แต่ระเบิดที่ "บรรทัดทอง" ผู้ชุมนุมตายไปหนึ่ง นายประคอง ชูจันทร์ กลับทำเฉย แรกๆตรวจพบห้องพักในตึกร้าง บอกว่าเป็นคลังอาวุธ แต่ดันเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ เลยปล่อยจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย เพราะเกี่ยวข้องกับ กทม. เลยเว้นวรรคให้ ไม่สนใจติดตามเพราะกลัวจะเข้าตัว
 
แล้วยังมีเรื่อง "ถุงทราย" ที่กทม.อ้างว่าเอาไว้ป้องกันน้ำท่วม ทำไปทำมา กลายเป็นว่าเอาไปให้ม็อบ คปท. ใช้ล้อมทำเนียบรัฐบาล ให้มันได้แบบนี้สิครับ ม็อบ กปปส. หรือ ม็อบ คปท. ควรจะเรียกว่า ม็อบ กทม. สนับสนุนกันชัดๆไปเลย ไม่ต้องปากว่าตาขยิบ
 
มันเป็นเรื่องของการแย่งชิง "อำนาจการเมือง" ประชาชนตกเป็นเหยื่อ ปากเป่านกหวีด ตาลอยละห้อย เหมือนต้องมนต์หมอผีพ่นคาถา เป่ากระหม่อมทุกค่ำคืน โดยไม่สนว่าประชาชนที่ไหนจะเดือดร้อน
 
ธาตุแท้ของนักการเมืองที่ลาออกเฉพาะชื่อ แต่ในใจยังสิงสถิตย์ทำประโยชน์ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ อะไรที่เป็นประโยชน์ ยินยอมพร้อมใจถวายหัวทำให้ ส่วนอะไรที่เป็นของพรรคตรงข้าม ต้องทำลายกันเสียให้ยับเยินป่นปี้
 
ม็อบนอนกันข้างถนน กินข้าวกล่อง ส่วนบรรดาแกนนำนอนอินเตอร์คอนฯ กับ ดุสิตธานี กินบุฟเฟ่ต์หลากชนิด
 
หากยังไม่รู้ก็รู้ไว้เสียด้วย บรรดาหมอ วิศวะ ดารา ประชาชน ทั้งนายทุนท่อน้ำเลี้ยง ช่วยตื่นจากภวังค์ เอานกหวีดออกจากปาก แล้วจะรู้ว่าถูกนักการเมืองหลอกใช้ มันเป็นเรื่องของกิเลสตัณหาการเมือง ผลประโยชน์ของพรรคตัวเองแท้ๆ
 
 
 

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา