"ยิ่งลักษณ์"ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ "ย้ำ"ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง หากผ่าน 2 ก.พ.ได้ปัญหาก็จะจบเร็ว "ยัน" ปัญหาถาโถมไม่เคยปรึกษา "ทักษิณ"แต่ปรึกษาทีมรองนายกฯรอบข้างและฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น "ยืนยัน "โครงการรับจำนำข้าวทำเพื่อช่วยเหลือชาวนา
เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 17 ม.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดโอกาสให้ 15 สำนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์พิเศษโดยใช้เวลาทั้งสิ้น 45 นาที โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกฯนายพงศ์เทพ เทพกาญจน รองนายกฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ว่า ถ้าการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. สามารถผ่านไปได้ก็เชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองจะจบลงเร็วขึ้น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเลือกตั้ง ยืนยันว่าเรื่องการเลือกตั้งจะยังต้องเดินต่อไป และถ้าวันที่ 2 ก.พ.ได้ ส.ส.ไม่ครบตามกฎหมายก็ให้เลือกตั้งใหม่ภายใน `30 วัน ก็ต้องรอจนกว่าจะครบจำนวนก็จะมีการเปิดประชุมสภา
" วันนี้ดิฉันก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการที่จะพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะ กปปส.แต่ข้อเรียกร้องของ กปปส.ในวันนี้ไม่สามารถทำได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงส่วนใหญ่จะพูดถึงครอบครัวของนายกรัฐมนตรีและมองว่าเป็นตัวปัญหา ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงไม่ลาออกเพื่อให้ปัญหาจบ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะได้คนใหม่เข้ามา อยู่ดีๆจะลาออกไม่ได้ การเลือกตั้งคือวิธีที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนยังต้องรักษาการในตำแหน่งนายกฯถ้าไม่ชอบคณะรัฐมนตรี ไม่ชอบนายกฯก็ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆจบลงได้
เมื่อถามว่าคิดว่าการเลือกตั้งในวันนี้จะมีประโยชน์อะไรต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าไม่ไปเลือกตั้งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ฝั่งผู้ชุมนุมเองก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะไม่มีการชูใครขึ้นมา ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดในเวลานี้ตนจึงพยายามที่จะเปิดเวทีการปฏิรูปประเทศควบคู่ไปด้วยเพื่อที่จะให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
เมื่อถามว่าครอบครัวของนายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญและอยู่เป็นศูนย์กลางความโกรธในกรุงเทพฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ที่พูดถึงนั้นคือแค่กลุ่มคนกลุ่มเดียวเท่านั้น คุณยังไม่ได้ถามกลุ่มคนกลุ่มอื่นที่เลือกดิฉันเองเข้ามา ครอบครัวดิฉันเป็นเหยื่อ ไม่มีใครอยากจะมายืนตรงนี้แล้วให้คนมาเกลียดทุกวัน แต่เราต้องรักษาประชาธิปไตย และอยากเห็นการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายกรัฐมนตรีกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หลังมีการท้วงติงโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและไต่สวน แต่ยืนยันว่านโยบายการรับจำนำข้าวนั้นรัฐบาลมีเจตนาช่วยชาวนาผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนก่อน
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะเกิดสงครามการเมืองและนำไปสู่การปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้คนไทยคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว และช่วยกัรักษาบรรยากาศ ถ้ามีการปฏิวัติก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร รัฐบาลทำได้ดีที่สุดคือการรักษาความสงบ โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ห้ามใช้กำลังกับผู้ชุมนุม และไม่ให่มีการใช้อาวุธ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย
เมื่อถามว่าขณะนี้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะปรึกษาใคร และมีการปรึกษากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้เป็นผู้ชายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มีการปรึกษากับทีมรองนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานอยู่ร่วมกันในขณะนี้ และฝ่ายความมั่นคง "ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ เลย"
ที่มา .voicetv.co.th