วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

นายกฯ ย้ำประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง


"ยิ่งลักษณ์"ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ "ย้ำ"ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง หากผ่าน 2 ก.พ.ได้ปัญหาก็จะจบเร็ว "ยัน"​ ปัญหาถาโถมไม่เคยปรึกษา "ทักษิณ"​แต่ปรึกษาทีมรองนายกฯรอบข้างและฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น "ยืนยัน "โครงการรับจำนำข้าวทำเพื่อช่วยเหลือชาวนา

เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 17 ม.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดโอกาสให้ 15 สำนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์พิเศษ​โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 45 นาที โดยมีนายสุรพงษ์ ​โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ​ นายนิวัฒน์ธำรงค์ ​บุญทรงไพศาล รองนายกฯ​นายพงศ์เทพ เทพกาญจน รองนายกฯ พล.ต.อ.อดุลย์​ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.อ.นิพัทธ์ ​ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.​ว่า ถ้าการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. สามารถผ่านไปได้ก็เชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองจะจบลงเร็วขึ้น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเลือกตั้ง ยืนยันว่าเรื่องการเลือกตั้งจะยังต้องเดินต่อไป และถ้าวันที่ 2 ก.พ.​ได้ ส.ส.ไม่ครบตามกฎหมายก็ให้เลือกตั้งใหม่ภายใน `30 วัน ก็ต้องรอจนกว่าจะครบจำนวนก็จะมีการเปิดประชุมสภา

" วันนี้ดิฉันก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการที่จะพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะ กปปส.​แต่ข้อเรียกร้องของ กปปส.ในวันนี้ไม่สามารถทำได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ" น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงส่วนใหญ่จะพูดถึงครอบครัวของนายกรัฐมนตรีและมองว่าเป็นตัวปัญหา ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงไม่ลาออกเพื่อให้ปัญหาจบ น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะได้คนใหม่เข้ามา อยู่ดีๆจะลาออกไม่ได้ การเลือกตั้งคือวิธีที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าวว่า ตนยังต้องรักษาการในตำแหน่งนายกฯ​ถ้าไม่ชอบคณะรัฐมนตรี ไม่ชอบนายกฯก็ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆจบลงได้

เมื่อถามว่าคิดว่าการเลือกตั้งในวันนี้จะมีประโยชน์อะไรต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าไม่ไปเลือกตั้งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ฝั่งผู้ชุมนุมเองก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะไม่มีการชูใครขึ้นมา ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดในเวลานี้ตนจึงพยายามที่จะเปิดเวทีการปฏิรูปประเทศควบคู่ไปด้วยเพื่อที่จะให้ประเทศเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่าครอบครัวของนายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญและอยู่เป็นศูนย์กลางความโกรธในกรุงเทพฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าวว่า "ที่พูดถึงนั้นคือแค่กลุ่มคนกลุ่มเดียวเท่านั้น คุณยังไม่ได้ถามกลุ่มคนกลุ่มอื่นที่เลือกดิฉันเองเข้ามา ครอบครัวดิฉันเป็นเหยื่อ ไม่มีใครอยากจะมายืนตรงนี้แล้วให้คนมาเกลียดทุกวัน แต่เราต้องรักษาประชาธิปไตย และอยากเห็นการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด"

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายกรัฐมนตรีกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หลังมีการท้วงติงโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและไต่สวน แต่ยืนยันว่านโยบายการรับจำนำข้าวนั้นรัฐบาลมีเจตนาช่วยชาวนาผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนก่อน

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะเกิดสงครามการเมืองและนำไปสู่การปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์​กล่าวว่า อยากให้คนไทยคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว และช่วยกัรักษาบรรยากาศ ถ้ามีการปฏิวัติก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร รัฐบาลทำได้ดีที่สุดคือการรักษาความสงบ โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ห้ามใช้กำลังกับผู้ชุมนุม และไม่ให่มีการใช้อาวุธ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย

เมื่อถามว่าขณะนี้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะปรึกษาใคร และมีการปรึกษากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้เป็นผู้ชายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์​ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ​ แต่มีการปรึกษากับทีมรองนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานอยู่ร่วมกันในขณะนี้ และฝ่ายความมั่นคง "ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ​ เลย"

ที่มา .voicetv.co.th

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา