วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

'พิเชษฐ์' โพสต์เลิกเล่นการเมือง ยันจะไม่ไปร่วมม็อบเด็ดขาด

'พิเชษฐ์' โพสต์เลิกเล่นการเมือง ยันจะไม่ไปร่วมม็อบเด็ดขาด


'พิเชษฐ์' อดีตส.ส.ปชป. โพสต์ข้อความระบุ ระหว่างการประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรค เขต 3 จ.กระบี่ ได้ปราศรัยกับสมาชิก พร้อมประกาศอำลาการเมือง และยืนยันจะไม่ไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ เด็ดขาด 

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วานนี้ (5 ก.พ.) กล่าวถึงการประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรคประชาธิปปัตย์ เขต 3 จังหวัดกระบี่ พร้อมเปิดใจ 5 เรื่อง และประกาศอำลาการเมือง เพราะอิ่มตัวทางการเมือง รายละเอียดดังนี้
๕ กพ. ๕๗
ประชุมใหญ่เลือก กก.บริหาร ปชป. เขต ๓ จว.กระบี่

กล่าวปราศรัยกับสมาชิกในฐานะอดีต ส.ส.

1.ขอบคุณกก.บริหารชุดเก่า ผู้พ้นวาระพ้นวาระ ที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งตลอดมาในยามที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน
 
2.กล่าวให้กำลังใจกก.บริหารชุดใหม่ ที่เป็นกก.บริหารชุดแรกในรอบ 22 ปี ที่เป็นสาขาพรรค ที่ไม่มีสส.ในสภา
 
3.กล่าวอำลาการเมือง ในโอกาสวันที่ ๕ กพ.๒๐๑๔
อายุครบ ๗๐ ปีตามทะเบียนบ้าน เพื่อดำรงสถานะอดีตสส.ต่อไป เพราะอิ่มตัวทางการเมืองแล้ว  

           3.1เป็นสส.คนแรกของจว.กระบี่ที่เป็นสส.เขตติดต่อกันถึง๒๒ ปีโดยไม่เคยสอบตก
           3.2ไม่เคยทิ้งประชาชนและพื้นทั่ไปเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ทั้งที่เป็นอดีตรัฐมนตรี และงานสบายกว่า
           3.3แจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่๒ กพ. ได้มาที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อลงตะแนน แต่หน่วยเลือกตั้งปิดที่มาก็เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ต้องการละทิ้งหน้าที่ในโอกาสสุดท้ายที่กำลังจะจบชีวิตการเมือง ไม่ได้ตั้งใจกระทำการขัดกับหัวหน้าพรรคที่ประกาศไม่ไปเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุผล ต่อเจ้าหน้าที่ โดยส่วนตัวรักและชื่นชมหัวหน้าพรรคมาโดยตลอด
           3.4การไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสิทธิ แต่การไปลงคะแนนเลือกตั้งเป็นหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อไปการเมืองจะเป็นประการใดก็ตาม ขอสมาชิกอย่าไปขัดขวางการเลือกตั้งเด็ดขาด เพราะเราไม่เคยทำเช่นนี้
           3.5ขอบคุณสมาชิกหลายคนที่ได้ร่วมงานกันมาตั้งแต่เป็นหนุ่มสาว จนวันนี้หลายคนตรงหน้าเริ่มแก่เฒ่ากันแล้ว
           3.6ในยามสูงอายุ เราจึงซาบซึ้งถึงความรักและผูกพันต่อบุตรหลาน ต้องขออภัยที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปม็อบที่กรุงเทพฯ

4 ประสบการณ์ตลอดชีวิตทราบดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
          4.1ไม่อยากเห็นภาพแม่นายวสุ สุฉันทบุตรที่ประคองใบหน้าลูกชายคนเดียวมองหน้าด้วยความอาลัยพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลจับขอบแว่นดำพรางดวงตาที่แดงกร่ำ หญิงม่ายผู้อดออมส่งเสียลูกคนเดียวจนจบการศึกษาชั้นปริญญาโทจากออสเตรเลีย หวังได้พึ่งพายามแก่เฒ่าฝากผีฝากไข้ แต่นายวสุ กลับทิ้งให้แม่ต้องมาทำศพลูกชายเสียเอง นายวสุจะเป็นวีระบุรุษของใครก็ตาม แต่เป็นคนใจดำ กับแม่ตนเองเกินไป ผมจึงไม่ไปงานศพเขา
          4.2ภรรยานายสุทิน มีบุตรอายุเพียง5 ขวบ ดูเหมือนชื่อแก้วตา แต่วันนี้แม่ของแก้วตาต้องเป็นหญิงม่าย และแก้วตาต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ 5 ขวบ
          4.3นายประคอง มีลูกคนเล็กอายุเพียง 3 ขวบ ไม่รู้ว่าพ่อตายแปลว่าอะไร
          4.4ดาบตำรวจผู้ตายคนหนึ่ง ลูกชายที่อุ้มอยู่ในมือแม่ พยายามโยนตัวไปหาศพพ่อที่นอนตายอยู่ พร้อมปลุกพ่อให้ตื่นกลับบ้าน
          4.5น้องสาวที่เป็นแพทย์หญิงประจำ รพ. 2 แห่งใกล้ รามคำแหง แจ้งให้ทราบว่า ศพที่รามคำแหงมีสองศพ ผ่านมือเธอที่โรงพยาบาล

          ศูนยนเรนทรรายงานว่า จนถึงวันนี้คนบาดเจ็บเกิน 600 คนแล้ว คนเจ็บที่ผ่านสายตาเธอต้องพิการตลอดชัวิตในลักษณะต่างๆหลายสิบราย

5.ผมยอมให้คนกระบี่โกรธผมที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปเสี่ยงความตายความพิการเช่นนั้น และจนบัดนี้ ใครก็อย่ามาขอสนับสนุนการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯจากผมเด็ดขาด บอกกล่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจกัน

พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
๐๕-๐๒-๕๗

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา