หัวหน้าพรรครักประเทศไทยโพสต์เฟซบุ๊กถามหากเรายังทะเลาะกันอย่างนี้ต่อไป จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยโพสต์เฟซบุ๊กถามหากเรายังทะเลาะกันอย่างนี้ต่อไป จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดยข้อความระบุว่า
"แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง?
เกือบ 30 ปีก่อน ผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง "สิ้นชาติ" (Twenty Years and Twenty Days) เขียนโดย เหงียนเกากี อดีตนายกรัฐมนตรีของเวียดนามใต้ในขณะนั้น ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านภายในประเทศ ทำให้ประชาชนต้องต่อสู้ฆ่าฟันกันเอง ด้วยความหลงเชื่อความคิดที่แตกต่างทางการเมือง
สถานการณ์ในเมืองไทยขณะนี้ หากคนในประเทศคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมเจรจากัน แม้แต่เลือกตั้งยังทำไม่ได้ ต่อไปคงเป็นช่องทางให้คนนอกประเทศเข้ามาแทรกแซง อันนำไปสู่ความแตกแยกที่ไม่รู้จบ จนอาจต้องแบ่งประเทศออกมาเป็นเหนือ – ใต้ แล้วกั้นกำแพงที่ใจกลางเมืองหลวง เหมือนดั่งประเทศอื่นที่คนในประเทศมีความคิดแตกต่างทางการเมือง จนต้องยอมแยกไปตั้งประเทศใหม่
ตอนนี้รัฐบาลไม่ต้องเอาเวลาไปบริหารงานบ้านเมือง มีความคิดสร้างสรรค์ใดๆ เพราะหมดเวลาไปกับการปกป้องตัวเอง ส่วนอีกฝ่ายแช่แข็งประเทศจนกว่าจะล้มรัฐบาลได้ อย่างอื่นค่อยมาว่ากัน
ฝั่งหนึ่งทำอะไร ก็ย้อนรอยทำเหมือนกัน ทั้งปิดถนนปิดสี่แยก ดาวกระจายไปปิดสถานที่ต่างๆ ฝั่งหนึ่งเคยเทเลือด ตอนนี้เทคอนกรีตหน้าทำเนียบฯ ฝั่งหนึ่งถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายที่ราชประสงค์ อีกฝั่งหนึ่งคงต้องถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายที่ผ่านฟ้าบ้าง ฝั่งหนึ่งตัดท่อน้ำเลี้ยงผู้สนับสนุนม็อบ อีกฝั่งก็ไปล้อมตึกตัดท่อน้ำเลี้ยงของตระกูล
ถึงแม้นายกฯยิ่งลักษณ์จะถูกลงแส้จาก ป.ป.ช.ไปยันศาลรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหายังไม่จบ เมื่อไหร่ลงจากเก้าอี้ มีนายกฯคนกลาง (คงกลางไม่จริง) จะเป็นคราวให้อีกฝ่ายลุกขึ้นโจมตีว่าถูกกลั่นแกล้ง ออกมาก่อม็อบประท้วงกันอีก เป็นศึกสงครามไม่รู้จบ แล้วจะรู้ว่าใกล้ถึง "วันสิ้นชาติ" สักแค่ไหน
ผมคิดถึงเสียงพูดก่อนเคารพธงชาติทุกเช้าเย็นว่า "ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย"
แล้วหากเรายังทะเลาะกันอย่างนี้ต่อไป จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง?"