วันที่ 27 ม.ค. ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สุขณรงค์ ร้อยเวรสภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งเหตุพบศพผูกคอตายในบ้านกำลังก่อสร้างตรงข้ามโรงรับจำนำเลขที่ 3 หมู่ที่ 1 ถนนอนามัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล หันชะนา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ปรัชญามาศ ไชยสุระ สวป. นพ.วิรุจน์ คุณกิตติ แพทย์นิติเวชเวรโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น และมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ก่อสร้างโรงรับจำนำยังไม่มีเลขที่ บริเวณด้านหลังชั้นล่างพบศพนางมนฤทัย ษิรขจรชัย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นอนหงายอยู่ในชุดเสื้อไหมพรมแขนยาวข้างในแล้วสวมแจ๊กเกตสีดำทับ ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำสวมถุงเท้าสีดำ มีรอยเชือกรัดที่บริเวณลำคอ บันไดเหล็กวางตั้งอยู่ เหนือบันไดเหล็กที่เพดานพบเชือกไนลอนสีเขียวแขวนค้างอยู่ แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-6 ชั่วโมง นำส่งศพผ่าพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์เสียก่อน
นายบุญไล ด้วงตะกั่ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 ม.14 ต.หนองคาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ช่างก่อสร้างโรงจำนำเกิดเหตุให้การว่าอาศัยอยู่ที่โรงจำนำกับนางมนฤทัย บนชั้น 2 ของบ้าน โดยคบหาเป็นแฟนกันมาประมาณ 2 เดือน เมื่อคืนที่ผ่านมานั่งดื่มเหล้าในห้อง สักพักนางมนฤทัยออกมาโทรศัพท์ด้านนอก ส่วนตนนอนหลับไปตื่นมาก็ไม่เจอแล้ว จึงไปรดน้ำต้นไม้ที่หลังโรงจำนำฝั่งตรงข้าม เมื่อกลับเข้ามาที่บ้านออกตามหากระทั่งพบแขวนคอตายอยู่ จึงรีบปีนขึ้นไปปลดเชือกพาลงมาเพื่อปั๊มหัวใจแต่ช่วยไม่ทัน
ต่อมาตำรวจขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องนอนพบร่องรอยการดื่มสุรา-สูบบุหรี่ บนโต๊ะทีวีติดประตูห้องนอน พบยาคุมยี่ห้อไดแอนจำนวน 2-3 แผง กับยาอัลพาโซแลมเป็นยานอนหลับออกฤทธิ์เร็ว เป็นยาอันตรายมีฤทธิ์กล่อมประสาท เป็นที่นิยมสำหรับผู้ชายไว้มอมสาวหลับนอนด้วย หรือที่เรียกว่ายาเสียสาวจำนวนหลายแผงจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายบุญไล ให้ว่านางมนฤทัย มีปัญหานอนไม่ค่อยหลับจึงต้องอาศัยยานอนหลับช่วย เนื่องจากมีปัญหาคดีฟ้องร้องกับแฟนเก่าคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่นำตัวนายบุญไล ไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะยังสงสัยถึงสาเหตุการตายครั้งนี้
ด้านญาตินางมนฤทัย ให้การว่านางมนฤทัย เป็นเศรษฐินีร่ำรวยระดับร้อยล้านทำกิจการโรงรับจำนำ 2 แห่ง มีบ้านหรูๆ หลายหลัง รวมทั้งรถยุโรปอีก 2 คัน โดยเมื่อ 20 ปีก่อนเคยแต่งงานอยู่กินกับนักธุรกิจก่อสร้างที่กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาแยกทางกัน ลูกๆ อาศัยอยู่กับพ่อ ส่วนนางมนฤทัย ได้สินสมรสเป็นเงินหลายสิบล้านบาท กลับมาทำธุรกิจที่บ้านจ.ขอนแก่น ที่ผ่านมาเคยคบหากับผู้ชาย 3-4 คน จนมาถึงรายนายบุญไล ซึ่งนอกจากให้เงินเดือนถึง 30,000 บาทเพื่อช่วยงานก่อสร้างแล้ว ยังให้รถปิกอัพไว้ใช้อีกคันด้วย
คดีนี้ตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมอำพราง ต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมและชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่มา khaosod.co.th