วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

เปิดใจสาวปีนรั้วฝ่าผู้ชุมนุมไปเลือกตั้งล่วงหน้า


เปิดใจสาวที่ปรากฎในคลิปและภาพปีนรั้วเข้าไปยังสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า เขตสวนหลวง หลังถูกผู้ชุมนุมปิดล้อมสถานที่ 'ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่ายังไงก็ต้องไปใช้สิทธิของเราให้ได้ ก็เราคนไทย ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย แล้วทำไมเราต้องยอมคนแบบนี้'
 
น.ส. สุวินันท์ ชัยปราโมทย์   หญิงสาวที่ปีนรั้วฝ่าผู้ชุมนุม กปปส.เพื่อเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ที่เขตสวนหลวง วานนี้ (26 ม.ค.) เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า " วันนี้เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าที่ใฝ่ฝันมานาน ด้วยใจรักประชาธิปไตยและความยุติธรรม
 
เวลา 08.05 น.โดยประมาณ เสียงม็อบ กปปส.ประกาศเราจะแสดงออกเพื่อคัดค้านการเลือกตั้งโดยสันติอหิงสา เดินเข้ามาอีก100เมตรจะถึงเขตและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยประมาณนึง ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก พอเดินมาใกล้ๆ อ้าว ม็อบนกหวีดทั้งนั้นที่มายืนขวางประตูแต่เช้าเลย
 
ทั้งชายฉกรรจ์หน้าตาเหมือนคนใต้หลายคนถือธงชาติด้ามโตหลายอันปิดหน้าปิดตาดูน่ากลัวมากและผู้หญิงเป่านกหวีดอีกหลายคน อ้าว!! ประตูรั้วของเขตปิด เป็นประตูรั้วแสตนเลสสีเงินแบบโปร่ง แต่มองเห็นชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่นั่งทำตาปริบๆว่าผู้ใช้สิทธิ์จะเข้ามายังไง
 
พอจะเลื่อนเปิดประตู อ้าวเจอผ้าขาวม้าผืนใหญ่มัดประตูไว้แน่นหลายชั้น ยื่นมือเข้าไปแกะท่ามกลางเสียงผู้ชายหน้าโหดหลายคนตะโกนบอก"เข้าไม่ได้ เข้าไม่ได้"
"ทำไมล่ะ". ฉันถาม
"มีคำสั่งห้ามเข้า". เขาตอบ
"ใครสั่งค่ะ"
"คุณสุเทพ"
"อ้าว คุณสุเทพบอกคัดค้าน แต่ไม่ขัดขวางไง"
"ไม่ได้ เข้าไม่ได้" พร้อมกับดึงมือของฉันออกจากผ้าขาวม้าอยู่ 2-3ครั้ง (ช่วงเช้าร้านยังไม่เปิด ซื้อโซ่ไม่ทัน)
 
ทำไงดีล่ะ หน้าตายังกะโจรทั้งนั่นเลย สงสัยคงสู้แรงชักคะเย่อผ้าขาวม้าไม่ไหว แต่วินาทีนั้นรู้สึก
ถูกลิดรอนสิทธิ์อย่างมาก รับไม่ได้เลย แต่ใจไม่มีความกลัวอันธพาลเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่ายังไงก็ต้องไปใช้สิทธิ์ของเราให้ได้ ก็เราคนไทย ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย แล้วทำไมเราต้องยอมคนแบบนี่
 
วินาทีนั้นเลยโยนรองเท้าเข้าไปก่อน แล้วปีนรั้วขึ้นข้ามไปโดยไม่สนใจเสียงโห่ของม็อบคนเลวพวกนี้เลย เจ้าหน้าที่หญิงสองสามคนวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจปรบมือดีใจต้อนรับ รีบพาเข้าไปคูหาเลือกตั้ง เขาบอก "พี่คือผู้ใช้สิทธิ์ในเขตคนแรกเลยน่ะค่ะที่เข้ามาได้ พี่กล้ามากเลยน่ะค่ะ" เลยบอกไปว่า ดิฉันรับไม่ได้กับบ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนี้ นี่หรือประเทศไทย
เจ้าที่ตรวจเช็คความเรียบร้อยของเอกสารแล้วก็ให้บัตรลงคะแนนมาสองใบ พร้อมกับเปิดกล่องให้ดูว่า ดิฉันเป็นคนแรกที่เสี่ยงตายเข้ามาได้ ดิฉันภูมิใจมากที่ได้กากบาทเบอร์15 พรรคในดวงใจที่มีนโยบายส่งตรงถึงคนรากหญ้า ทั้งๆที่ดิฉันไม่ใช่คนรากหญ้าด้วยซ้ำไป
 
เสร็จสิ้นการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ขอร้องว่าไม่ควรออกทางเดิมที่ปีนเข้ามา เพราะมันอันตรายมากและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่ง เลยพาดิฉันออกทางด้านหลัง ก็คิดในใจว่า อ้าวประตูด้านหลังมีด้วยเหรอแล้วทำไมไม่กันผู้ใช้สิทธิ์มาทางนี้
ที่ไหนได้ ไฮโซเลือดประชาธิปไตยอย่างดิฉัน ต้องแปลงร่างกลายเป็นหนุมานอีกแล้ว แต่คราวน้ีมันลำบากกว่าปีนเข้าซะอีก เพราะทางด้านหลังรั้วกับหลังคาห่างกันแค่หนึ่งฟุต รั้วก็สูงเกือบสองเมตรได้ แถมทางด้านหลังรั้วยังเป็นทางเดินปูนบนทางระบายน้ำอึก เลยต้องปีนพร้อมกับนอนค่อมรั้วเพื่อออกมาทางด้านหลังและเดินออกถนนใหญ่เพื่อกลับมาที่รถ เสร็จสิ้นการใช้สิทธิทางประชาธิปไตย อันแสนทรหดของดิฉัน "


              

ที่มา  http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/95391.html

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา