วันที่ 17ม.ค. 57 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน กกต. ชั่วคราว จ.ชลบุรี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 29 คนใน 8 จังหวัดภาคใต้ ของพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อ กกต ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ และบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผู้สมัคร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง งบประมาณแผ่นดิน และความเสียหายในเรื่องอื่นๆ อันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.๒๕๕๖ กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป เป็นวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556ตลอดจนประกาศเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งตามอำนาจหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่บังคับการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตามคำสั่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง หมายเลขคดีดำที่ ลต.1/2557 ที่อ้างถึง(1)ได้มีคำวินิฉัยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า การสมัครรับเลือกตั้ง เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องควบคุม และดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม
สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นผู้สมัครใน 8 จังหวัด และ 28เขตเลือกตั้งไม่สามารถยื่นใบสมัครต่อ ผ.อ.การเลือกตั้งประจำเขตภายในระยะเวลาที่กำหนด ด้วยเหตุที่มีผู้ชุมนุมประท้วง ขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง บรรดาผู้สมัครได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อให้เกิดสิทธิต่อผู้สมัคร แต่ศาลฎีกายกคำร้อง โดยให้เหตุผลตามที่กล่าวมาข้างต้น ภายหลังศาลฎีกามีคำสั่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต. คงไม่สามารถกำหนดวันรับสมัคร ส.ส.ใน 28 เขต 8 จังหวัดที่ยังไม่มีผู้สมัครเพิ่มเติมได้อีก เนื่องจากเลยกรอบระยะเวลามาแล้วหากดำเนินการจะกระทบต่อแผนงานจัดการเลือกตั้ง โดยจะดำเนินการเลือกตั้งหลังวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไปแล้ว
ตนในฐานะตัวแทนพรรคผู้ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งข้างต้น และผู้สมัคร ขอคัดค้านดุลพินิจของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้งในการใช้ดุลพินิจดังกล่าว เพราะบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 108บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า การเลือกตั้งทั่วไปให้กระทำได้ในวันเดียว อีกทั้งข้ออ้างเรื่องกรอบระยะเวลา และแผนงานจัดการเลือกตั้งก็ไม่ใช่เหตุผลตามกฎหมายที่รองรับ และไม่ใช่เหตุผลอันสมควรตลอดจนมิใช่เหตุอันจำเป็น แต่อย่างใด ขอยืนยันว่านับแต่ระยะเวลาที่ศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งกลับละเลย เพิกเฉย ไม่สนใจไม่นำพา จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งๆที่ศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยว่าเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรง ของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลับปล่อยเวลาให้ล่วงเลยจนกระทั่งถึงวันนี้ โดยเปล่าประโยชน์ทั้งๆ ที่ตามอำนาจหน้าที่อยู่ในวิสัยที่จะใช้อำนาจของตนมีมติประกาศราชกิจจานุเบกษา เพื่อจัดให้มีการรับสมัครเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครที่มีปัญหาไม่สามารถยื่นใบสมัครต่อ ผ.อ.การเลือกตั้งประจำเขตรวมตลอดทั้งอยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขประกาศ และวิธีการรับสมัครเสียใหม่ในสถานที่ และวิธีการอื่นๆ ให้สามารถให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครได้ ซึ่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งเองก็ได้วินิจฉัยเป็นที่สุดยืนยันในอำนาจหน้าที่ อีกทั้งจนกระทั่งทุกวันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ดำเนินการใดๆ ในอันที่จะขอความร่วมมือหรือออกคำสั่งไปยังหน่วยงานของรัฐตามอำนาจหน้าที่ของตนเป็นไปเพื่อให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครได้ ถือได้ว่าเป็นการจงใจ และหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่ และประการที่สำคัญการจัดการเลือกตั้งภายหลังวันที่ 2กุมภาพันธ์ 2557อาจจะประเด็นที่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 108และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา4วันเลือกตั้ง และพ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.๒๕๕๖ มาตรา4อันจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ,ผู้สมัครและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การขัดขวางการเลือกตั้งมีบทบัญญัติกฎหมายเฉพาะ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะดำเนินการเอากับผู้ขัดขวางการเลือกตั้งได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองผู้ส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และผู้สมัครจึงขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการดังนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1. ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย จัดให้ผู้สมัครสามารถยื่นใบสมัครต่อกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำเขตหรือผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขต ให้เสร็จสิ้นตามคำสั่งของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตามเอกสารที่อ้างถึง (1) เพื่อให้ผู้สมัครของพรรคการเมืองที่ไม่สามารถยื่นใบสมัคร สามารถยื่นใบสมัครได้เพื่อให้ผู้สมัครมีสิทธิเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งที่สมบูรณ์ตามกฎหมายก่อนวันเลือกตั้ง2 กุมภาพันธ์ 2557
2. ให้ยุติการกระทำใดๆ ในอันที่จะเสนอเรื่องต่อรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลเสนอพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่รวมตลอดทั้งการที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านการบริหารการเลือกตั้งในอันที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการเลือกตั้ง
3. ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับทราบว่าในปัจจุบันพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร และบรรดาผู้สมัครหลายรายได้เสียค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้อันเป็นผลจากการประกาศราชกิจจานุเบกษาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556
การดำเนินการทั้ง 3ข้อ เป็นการป้องกันความเสียหายในอันที่จะเกิดขึ้นอันเป็นผลโดยตรงที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมรวมถึงจะทำให้การเลือกตั้งเสียหาย สูญเปล่า หรือตกเป็นโมฆะ ทำให้งบประมาณแผ่นดินต้องเสียไปจึงขอยืนยันให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ที่จะควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้งตามพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556 หากยังคงเพิกเฉยและเกิดความเสียหายคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องรับผิดชอบให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ที่มา http://www.ptp.or.th/