การที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศยุบสภา 9 ธ.ค. 2556 นั่นหมายถึงรัฐบาลได้คืนอำนาจให้กับประชาชน โดยผ่านการใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
หากแต่ กปปส.ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว ตรงข้ามกลับยกระดับการชุมนุมกดดันรัฐบาล ปฏิเสธและขัดขวางการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น แม้จะมีประกาศพ.ร.ฎ.ยุบสภา กำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ไว้ชัดเจน แต่ถึงวันนี้ยังมีคำถามว่าการเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะเกิดขึ้นหรือไม
สถานการณ์เช่นนี้ ผลักดันให้บรรดานักวิชาการ กลุ่มปัญญาชนและประชาชนทั่วไป ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ออกมารณรงค์สนับสนุนการเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก
นำร่องความสนใจของสื่อได้เป็นกลุ่มแรกๆ คือ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย หรือ สปป. ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักวิชาการ ปัญญาชน นักคิด นักเขียน ซึ่งเป็นที่รู้จัก
อาทิ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เกษียร เตชะพีระ ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ พวงทอง ภวัครพันธุ์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล ยุกติ มุกดาวิจิตร ประจักษ์ ก้องกีรติ
สปป.เปิดตัวกลุ่มเมื่อ 10 ม.ค. พร้อมกับแถลงไม่เห็นด้วยกับการตั้งสภาประชาชน และข้อเรียกร้องนายกฯ คนกลาง แต่เห็นว่าเมื่อยุบสภาต้องมีการเลือกตั้งใหม่ โดยที่คณะรัฐมนตรีต้องอยู่รักษาการ
และยังเปิดแฟนเพจ www.facebook.com/Assemblyforthe defense of democracy ที่สร้างเสียงฮือฮา เมื่อยอดกดไลน์ทะลุถึงหลักแสนแค่ชั่วข้ามคืน
เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่แน่นอนว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ประกอบกับมีนักวิชาการที่สนับสนุน กปปส. ชูประเด็น 1 คน 1 เสียงไม่เหมาะที่จะใช้กับสังคมไทย เท่ากับปฏิเสธหลักความเสมอภาคของปัจเจกชน
22 ธ.ค. สปป.จึงจัดกิจกรรม "คนเท่ากัน เดินหน้าเลือกตั้ง ร่วมกันปฏิรูป" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต
มีการอ่านแถลงการณ์ "คำประกาศแห่งความเสมอภาค" และจำลองคูหาเลือกตั้ง ให้ผู้มาร่วมงานเข้าคูหาเขียนคำประกาศแห่งความเสมอภาค
พร้อมออกสติ๊กเกอร์ "คน=เท่ากัน คือพื้นฐานของประชาธิปไตย" "ประชาธิปไตยต้องเริ่มที่คนไทยเท่ากัน" และ "เดินหน้าเลือกตั้ง ร่วมกันปฏิรูปฯ 2 กุมภาฯ 57" เปิดให้ดาวน์โหลด ไปใช้งานสำหรับการรณรงค์ได้ อาทิ สติ๊กเกอร์ ลายเสื้อ
นอกจากนี้ สปป. ยังจัดกิจกรรมรณรงค์ปกป้องประชาธิปไตยในต่างจังหวัด เชิญชวนไปเลือกตั้ง 2 ก.พ. อย่างต่อเนื่อง
แนวร่วมเดียวกับ สปป. คือกลุ่ม We Vote ที่เปิดแฟนเพจ www.facebook.com/thailand2014wevote ออกแถลงการณ์ประกาศชัดในฐานะพลเมืองไทยสนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.
มีการทำกราฟิกหลากหลายรูปแบบผ่านยูทูบ กระตุกสำนึกรักประชาธิปไตย และเหน็บแนมเสียดสีฝ่ายตรงข้ามให้คันคะเยอ
ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม We Vote คือรูปที่ใช้ปากกาเป็นกระสุน นำไปวางแทนตำแหน่งกระบอกปืนบนรถถัง และมีบทสัมภาษณ์จากคนดัง ออกมาเชิญชวนให้คนไปเลือกตั้ง
ขณะที่แฟนเพจ พอกันที! หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง จัดกิจกรรมจุดเทียนเขียนสันติภาพ ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ มหานคร เขตปทุมวัน
เป็นกิจกรรมจุดเทียนกลางกรุงครั้งที่สอง ล่าสุดคือเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา
นายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ จัดตั้งกลุ่มนี้ขึ้นเพราะสะเทือนใจกับภาพภรรยาตำรวจที่เสียชีวิตในเหตุปะทะที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เสียใจที่สามีต้องตาย และเห็นการ์ด กปปส.ที่เสียชีวิตวันต่อมา
อัดอั้นตันใจจนตั้งแฟนเพจดังกล่าวเพื่อใช้เป็นพื้นที่แสดงออกสำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จะนำไปสู่เงื่อนไขความรุนแรงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอีก เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อปฏิรูปทางการเมือง
กลุ่มพอกันทีฯ ยังมีแนวร่วมอย่าง อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ที่โพสต์ข้อความเชิญชวนชาวจุฬาฯ ให้ไปร่วมกิจกรรมพอกันที! ที่จะจัดอีกเป็นครั้งที่สามในวันที่ 10 ม.ค.นี้
อ.เจษฎา ชี้แจงว่าเขาไม่ใช่ผู้นำในการทำกิจกรรมกับกลุ่มพอกันที! แค่โพสต์เฟซบุ๊กเชิญเพื่อนๆ ให้มาเจอกัน เพราะดูกระแสขณะนี้อาจมีประชาชนเข้าร่วม มากขึ้น
เป้าหมายคือที่ยืนในสังคม การเลือกตั้งเป็นทางหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ทางออก 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เป้าหมายไม่ใช่มีคนแค่ 2 ขั้วเท่านั้น มีคนที่อยู่ตรงกลางด้วย เพราะวันนี้ 2 ฝ่ายต่างสุดขั้ว
ผมอยากเป็นแค่คนตรงกลาง เป็นพวกที่ 3 เป็นตัวยืนในสังคมได้บ้าง ไม่ใช่ถูกผลักให้ไปข้างซ้ายหรือขวาอย่างนี้
เส้นทางที่เหมาะสมคือต้องการเลือกตั้ง โดยให้เลือกตั้งไปก่อนและให้เวลา 1 ปี เพื่อแก้ไขกฎเกณฑ์ต่างๆ ปี 2558 ก็มาเลือกตั้งจริงๆ อีกครั้ง แต่วันนี้เราต้องหาทางลดกระแสความรุนแรงลงและเดินไปด้วยกันให้ได้
การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคนไทย เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ต้องไป จะไปล้ม ไปเลื่อนไม่ได้ วันที่ 2 ก.พ.นี้ เราต้องผ่านไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเริ่มปะทะกัน ซึ่งอันตรายและในอนาคตคนจะล้มตายเท่าไร
อ.เจษฎาเผยด้วยว่า กิจกรรมวันที่ 10 ม.ค. จะนัดเจอกันที่ลานพระรูป 2 รัชกาล เวลา 17.00 น. และจะเดินไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มพอกันที! ที่ลานหอศิลป์แล้ว และอยากรอดูสถานการณ์ทางการเมืองในสัปดาห์หน้าก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หวังว่าสิ่งที่ทำจะช่วยสร้างแรงกระเพื่อม และอาจรวมตัวกันตามหมู่บ้าน สถานศึกษา และจุดเทียนเพื่อกระตุ้นเตือนให้คนมีสติกันมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องออกมารวมกลุ่มกันมากๆ
อีกกลุ่มที่จัดกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์เช่นกันคือ กลุ่มศิลปวัฒนธรรม ANTs POWER เพิ่งจัดกิจกรรม "รวมพลคนไปเลือกตั้ง" ไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
กลุ่มนี้ใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ ให้ผู้เข้าร่วมใส่เสื้อ สีขาว และร่วมกันปล่อยลูกโป่งสีขาว ยืนยันการเลือกตั้งคือการคัดกรองและตรวจสอบนักการเมืองที่มีประสิทธิภาพ
แม้ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะสามารถตอบโจทย์ทุกอย่าง แต่เชื่อว่าการเลือกตั้งคือทางออกของความขัดแย้งในตอนนี้
สำคัญที่สุดไม่ต้องการเห็นคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียวถือครองอภิสิทธิ์ หรือลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเราชาวไทย
ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มผู้ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการใช้รถใช้ถนน เชิญชวนแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซค์ รถตู้และบุคคลทั่วไป ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกรุงเทพฯ แสดงสัญลักษณ์ต่อต้านด้วยการเปิดไฟหน้ารถ
ขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวว่าที่ผ่านมา พยายาม มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของกลุ่มต่างๆเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะรูปแบบการทอล์กโชว์ที่สนับสนุนการเลือกตั้ง
ส่วนกิจกรรมวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ถ้ามีการเลือกตั้งก็ขอให้ประชาชนไปเข้าคูหาลงคะแนน แต่หากไม่มีการเลือกตั้งขอนัดแนะประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซื้อสีสเปรย์เดินตามถนนแล้วพ่นสีลงบนพื้นถนนเป็นสัญลักษณ์กากบาท เพื่อแสดงให้เห็นว่าต้องการใช้สิทธิ์ของตัวเอง
นอกจากกลุ่มต่างๆ ที่จัดกิจกรรมรณรงค์เลือกตั้งต่อสาธารณะแล้ว ยังมีการเชิญชวนผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น มศว ประสานมิตร จัดกิจกรรมจุดเทียนเขียนสันติภาพ ที่ลานสวูนิเพล็กซ์ เวลา 17.00 น. วันที่ 9 ม.ค.
มหาวิทยาลัยศิลปากร ทับแก้ว ก็เชิญชวนชาวนครปฐมร่วมกันจุดเทียนหยุดความรุนแรง ในวันเดียวกัน
กว่าจะไปถึงวันที่ 2 ก.พ. เชื่อว่ายังมีความเคลื่อนไหวของคนรักประชาธิปไตยที่จะทยอยกันออกมาแสดงพลัง
