อดีตรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นชี้ไทยเป็นดุลถ่วงอิทธิพลจีนในภูมิภาค เรียกร้องชาติตะวันตกและเอเชียช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปกป้องระบอบประชาธิปไตย มิฉะนั้น พรรคทักษิณอาจหันไปซบปักกิ่ง
ยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมหญิง และที่ปรึกษารัฐบาลด้านความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น เขียนบทความเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Project Syndicate เสนอทัศนะในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เปรียบเทียบกรณีมหาอำนาจสหรัฐในยุคสงครามเย็นสูญเสียจีนให้กับค่ายคอมมิวนิสต์ และสูญเสียระบอบกษัตริย์ชาห์ของอิหร่านให้กับการปฏิวัติอิสลาม กับกรณีประเทศไทย โดยชี้ว่า โลกประชาธิปไตยกำลังจะสูญเสียประเทศไทยให้กับจีน
ในบทความ ชื่อ "Who lost Thailand?" โคอิเกะ บอกว่า ประเทศไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำอยู่บนขอบเหวทางการเมือง แต่ประเทศในเอเชียดูจะยังมองเมินสภาพอนาธิปไตยในประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าแห่งนี้ ความไม่อินังขังขอบดังกล่าวไม่เพียงเป็นเรื่องเขลา แต่ยังอันตรายด้วย
เธอบอกว่า สาเหตุรากเหง้าของความไม่สงบในประเทศไทย เกิดจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทักษิณ ชินวัตรย้อนหลังไปเมื่อปี 2544 ชัยชนะของเขาได้ทำให้คนส่วนใหญ่ในชนบทที่ยากจนและถูกปิดปากมานานได้เติบใหญ่ทางการเมือง สร้างความหวาดผวาแก่ชนชั้นนำกรุงเทพที่เคยกุมอำนาจนำ
แต่แทนที่จะเรียนรู้เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงของคนจนในชนบทจากทักษิณ ชนชั้นนำเขตเมือง รวมทั้งกองทัพ กลับพยายามบั่นทอนความชอบธรรมของเขา พอเขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาด้วยเสียงข้างมากที่กว้างขวางกว่าเดิม พรรคของเขาก็ถูกศาลสั่งยุบ ตัวเขาถูกกดดันให้หลบออกนอกประเทศหลังจากมีการพิพากษาว่าเขามีความผิดในข้อหาคอร์รัปชั่น
แม้กระนั้น ผู้สนับสนุนไม่ทอดทิ้งเขา เมื่อทหารกลับเข้ากรมกอง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา เธอพยายามลดความเป็นปรปักษ์ แต่นั่นทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำพองใจ เมื่อเธอเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด พรรคฝ่ายค้านฉวยจังหวะนี้ก่อการประท้วง เธอยุบสภา แต่พรรคฝ่ายค้านไม่ลงเลือกตั้ง
ดังนั้น โดยแก่นแท้แล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ ความพยายามโค่นระบอบประชาธิปไตยของพรรคฝ่ายค้าน กับชนชั้นนำ พรรคฝ่ายค้านซึ่งไม่สามารถช่วงชิงคะแนนนิยมจากทักษิณได้ ต้องการบั่นทอนประชาธิปไตย เพื่อขัดขวางผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ให้เลือกรัฐบาลที่พวกเขาไม่ถูกใจอีก
โคอิเกะ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจเอเชีย เป็นหุ้นส่วนสำคัญของประเทศเมียนมาร์ซึ่งกำลังปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง เป็นศูนย์กลางการค้ากับกัมพูชา ลาว และเวียดนาม อีกทั้งไทยยังเป็นสมาชิกในค่ายประชาธิปไตยในท่ามกลางการแข่งอิทธิพลระหว่างโลกประชาธิปไตยกับจีนที่กำลังผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกด้วย
"หากเพิกเฉยเมื่อฝ่ายค้านและชนชั้นนำตามจารีตของไทยพยายามบั่นทอนประชาธิปไตย เพื่อผูกขาดสิทธิที่จะปกครองประเทศโดยถาวร บรรดาประเทศประชาธิปไตยของเอเชียก็มีความเสี่ยงที่บางปีกของกลุ่มทักษิณจะหันไปหาจีน ซึ่งยินดีที่จะเล่นบทผู้อุปถัมภ์" เธอกล่าว และว่า นักการเมืองของพรรคฝ่ายค้านไม่เพียงคุกคามเสถียรภาพของประเทศไทย แต่ยังบั่นทอนความมั่นคงของภูมิภาคด้วย
อดีตรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นผู้นี้ บอกว่า ชาติตะวันตกเคยคัดค้านชนชั้นนำผู้นิยมการปกครองแบบโลกวิสัยของตุรกี ที่จะปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งของรีเซ็ป เทย์ยิป แอร์โดกัน ผู้มีแนวทางอิสลามนิยม มาแล้ว ในวันนี้ โลกตะวันตกจำเป็นต้องแสดงออกอย่างชัดเจน ปกป้องระบอบประชาธิปไตยของไทย ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของพรรคฝ่ายค้านที่ว่าพวกเขากำลังทำเพื่อประชาธิปไตย
"ทักษิณอาจไม่ใช่นักบุญ และจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการปรองดองทางการเมือง แต่รัฐบาลของทักษิณและน้องสาวของเขา ได้ทัดทานอิทธิพลของจีนไว้ นั่นคือผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ที่เป็นเดิมพัน" เธอกล่าว
ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวในที่สุดว่า หากยิ่งลักษณ์ถูกขับโดยรัฐประหาร หรือถูกกีดกันไม่ให้คืนสู่อำนาจ พี่น้องชินวัตรอาจไม่เหลือทางเลือกอื่น นอกจากขอแรงสนับสนุนจากจีน ถ้าการณ์เป็นเช่นนั้น เราทุกคนรู้ว่าใครสูญเสียประเทศไทย พวกเรานั่นเอง.
ที่มา : Project Syndicate
@ ยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม จากพรรคเสรีประชาธิปไตย