นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ นายประมณฑ์ สุธีวงศ์ ประธานองค์การต่อต้านทุจริต พบ พรรคประชาธิปัตย์แล้ว ออกมาสนับสนุนการปิดกรุงเทพ แทนที่จะถามพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับงบไทยเข้มแข็ง สี่แสนล้านบาทที่มีข้อมูลการทุจริตอย่างมากเช่น สถานีตำรวจ 396 แห่ง ครุภัณฑ์อาชีวะ 5,800 ล้าน ถนนไร้ฝุ่น ฯลฯ กลับอ้างว่าการปิดกรุงเทพจะเสียหายไม่มาก ภาคธุรกิจรับได้นั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่ประกาศปิดกรุงเทพมา หุ้นตกตั้งแต่วันแรกกว่า 67 จุด คิดเป็นมูลค่าตลาดที่ลดลงกว่า ห้าแสนแปดหมื่นล้านบาท และตั้งแต่มีการชุมนุม หุ้นตกกว่า 200 จุด มูลค่าตลาดลดลงกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบให้กับ ผู้ลงทุน และ กองทุนการออมต่างๆที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น กบข. , LTF, RMF ซึ่งหากปิดกรุงเทพจริง หุ้นจะตกลงมากกว่านี้ อีกทั้งยังกระทบอย่างมากต่อการท่องเที่ยว มีการยกเลิกการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีฐานะเป็นจำนวนมากเพราะห่วงความไม่สงบ และเที่ยวบินกว่า 60 เที่ยวแล้วที่ได้ยกเลิกการเดินทางมาไทยในช่วงดังกล่าวแล้ว ความเชื่อมั่นของประเทศตกต่ำถึงขีดสุด มีการโยกย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมาก ปัญหาของประเทศจะเรื้อรังไม่จบเร็วเหมือนที่นายประมณฑ์บอกอย่างแน่นอน และหากปิดกรุงเทพจริงจะทำให้ประเทศเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมากเรียกว่าอาจถึงพังพินาศได้
การที่นายสุเทพประกาศทุบหม้อข้าวและรื้อเต๊นท์เพื่อปิดกรุงเทพ คุณสุเทพได้ทุบหม้อข้าวของคนหาเช้ากินค่ำในกรุงเทพไปแล้ว และหากปิดกรุงเทพจริง ก็เท่ากับนายสุเทพทุบหม้อข้าวของคนไทยทั้งประเทศ
ที่มา www.ptp.or.th