นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. เดินเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมในวันที่ 13ม.ค. ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ และสิ่งที่นายสุเทพ ต้องการคือการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ดูเหมือนเป็นแนวทางเดียวกับ พรรคการเมืองใหม่ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ องค์การพิทักษ์สยาม ของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่ไม่ต้องการการเลือกตั้ง ต้องการแช่เข็งประเทศ ไม่ต้องการให้มีประชาธิปไตย ซึ่งมองว่าการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นแนวคิดของกลุ่มอำนาจเดิม ที่สูญเสียอำนาจต้องการให้ทหารออกมาเหมือนปี 49
ทั้งนี้การกระทำของนายสุเทพ ที่จะปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค. ทำได้เพียงการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองเท่านั้น ไม่สามารถล้มรัฐบาลหรือ สถาปนาอำนาจให้ตัวเองได้ เนื่องจากมีกฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับใช้อยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่เอาด้วย จึงตั้งคำถามว่าการจะบรรลุเป้าหมายได้ ต้องมีความวุ่นวาย จนเกิดการปะทะ แล้วให้ทหารออกมายึดอำนาจโดยการฉีกรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง หรือ หวังให้องค์การอิสระลงดาบกับรัฐบาลใช่หรือไม่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. จะเป็นการฟอกความผิดให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ ระบอบทักษิณ ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเป็นการอคติ ไม่ศรัทธา ระบอบประชาธิปไตย ไม่ฟังเสียงของคนส่วนใหญ่แล้วโยนบาปให้รัฐบาล จึงเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดให้ชัดว่าเห็นด้วยกับการปิดกรุงเทพฯในวันที่13 ม.ค. ของ กปปส. หรือไม่
"หากไม่ออกมาพูดก็ท้าให้นายอภิสิทธิ์ พาลูกพรรคลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้วไปร่วมกับ กปปส. เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ก็เหมือนเป็นแนวร่วมเดียวกับ กปปส. อยู่แล้ว ประชาชนจะได้ไม่สับสนว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนอย่างไร"