เวลา 16.50 น. วันที่ 16 มกราคม ที่สำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวผลการประชุมเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อรัฐบาล ในกรณีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ตามนโยบายของรัฐบาล โดยระบุว่า จากการสอบสวนพบว่าบริษัทค้าข้าวทุกรายจ่ายเงินให้กรมการค้าต่างประเทศ โดยที่ไม่พบการส่งข้าวออกนอกราชอาณาจักร จึงไม่ใช่การค้าแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ทั้งยังพบการกระทำผิดเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวพันกับสรรพากร จึงมีมติเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์รวม 15 คน ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) มีมติเอกฉันท์ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนเช่นกัน จากกรณีละเว้นปฏิบัติหน้านี้ ไม่หยุดยั้งโครงการที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
"ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่คณะกรรมการไต่สวนเสนอ ให้ดำเนินการไต่สวนต่อไป ส่วนแจ้งข้อกล่าวหาค่อยดำเนินทีหลัง เพราะเขามีสิทธิที่จะคัดค้านคณะกรรมการป.ป.ช.ที่เราแต่งตั้งไป ต้องให้โอกาสคัดค้าน แล้วเราก็จะพิจารณาอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้เราก็ไต่สวนเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด แต่เราก็รอว่าจะคัดค้านใครหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาเราจะรีบดำเนินการต่อไป"นายวิชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเพื่อปลดล็อคการเมือง นายวิชา กล่าวว่า ไม่เกึ่ยว เราพิจารณาไปตามระบบ ถึงเวลาก็ว่ากันไปตามหลักการหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนที่บอกว่ามีการพยายามล็อบบี้ผลการประชุม ตนเชื่อว่าไม่มี
"ที่ผมได้ทำงานมา แล้วเราได้ดำเนินการแบบตรงไปตรงมา ได้ลงมติกัน ไม่ใช่ว่าลงมติกันแบบชักจูงกันไปลงมติ แล้วผมก็ไม่มีสิทธิไปชักจูงใจ และใครก็มาชักจูงเราไม่ได้ เราใช้เหตุผล อ้างอิงหลักฐานชนิดที่เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกด้าน"นายวิชา กล่าว
ที่มา http://www.khaosod.co.th/