วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

โฆษกอัยการสูงสุดย้ำเส้นตาย ‘เทือก’ ต้องเข้ามอบตัวเพื่อนำส่งฟ้องศาลคดี 99 ศพ


 ในส่วนของการฆาตกรรมพัน คำกอง และน้องอีซา เด็กกำพร้า รวมถึงคดียิงสมร ไหมทองด้วย เผยถ้าหากส่งทนายมาขอเลื่อนอีก อัยการก็จะพิจารณาว่ามีเหตุอันควรจะให้เลื่อนหรือไม่

 เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายนันทศักดิ์ พูลสุข โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีนัดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. อดีตผอ.ศอฉ. และอดีตรองนายกฯ ส่งตัวฟ้องคดีร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่า จากกรณีออกคำสั่งศอฉ. ขอคืนพื้นที่การชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2553 เพื่อฟ้องต่อศาลอาญาในวันที่ 8 ม.ค. ว่า อัยการยังคงนัดหมายให้นายสุเทพมาพบในวันที่ 8 ม.ค. เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้นายสุเทพก็ยังไม่ได้ประสานขอเลื่อนแต่อย่างใด โดยคงจะต้องรอดูในวันดังกล่าวว่า นายสุเทพจะเดินทางมาพบตามที่อัยการนัดหมายหรือไม่ ทั้งนี้ หากนายสุเทพจะขอเลื่อนนัดส่งตัวฟ้องศาล อัยการก็คงจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่ามีเหตุอันควรขอเลื่อนหรือไม่ 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2556 พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 84, 90 และ 288 โดยสืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารยิงนายพัน คำกอง กับ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา เสียชีวิต และยิงนายสมร ไหม ทอง คนขับรถตู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสในเหตุ การณ์สลายการชุมนุมม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 

 ต่อมาศาลสอบคำให้การ โดยนายอภิสิทธิ์ให้การปฏิเสธ และต่อสู้คดีทุกข้อกล่าวหา พร้อมประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข อ.4552/2556 ศาลจึงนัดประชุมคดี ตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 24 มี.ค.2557 ก่อนที่ทนายความนายอภิสิทธิ์ยื่นหลักทรัพย์เป็นอาคารชุดที่ จ.ชลบุรี มูลค่า 1,800,000 บาท ศาลพิจารณาคำร้องทั้งหมดแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามนายอภิสิทธิ์ออกนอกประเทศ ยกเว้นได้รับอนุญาตจากศาลเท่านั้น

 ส่วนนายสุเทพนั้น ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมอีกคนนั้น ได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนนัดนำตัวส่งฟ้องศาลออกไปเป็นวันที่ 16 ม.ค.2557 โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อมาอัยการพิจารณาแล้วนัดหมายให้มาพบในวันที่ 8 ม.ค.2557  

 ที่อาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธาน นปช.นครราชสีมา พร้อมทีมงาน ได้เร่งปรับพื้นที่ภายใน เพื่อเตรียมจัดเวทีการประชุมสัญจร ในวันที่ 7 ม.ค. ตามที่นางธิดา โตจิราการ ประธาน นปช.ส่วนกลาง และแกนนำ มีมติให้จังหวัดนครราชสีมา เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากเป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ จุดยุทธศาสตร์การเมืองสำคัญ ทำเลที่ตั้งมีความสะดวกในการสัญจรของแต่ละภาค ปัจจัยสำคัญสามารถรองรับมวลชนได้ร่วม 4 พันคน และดูแลรักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึง โดยใช้ การ์ด นปช. ซึ่งเป็นอดีตทหารพราน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมกว่า 200 นาย ดูแลให้การประชุมเป็นไปโดยสงบ และส่งมวลชนทุกคนให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย  

 นายอนุวัฒน์กล่าวต่อว่า วาระสำคัญ แกนนำส่วนกลาง และจากพื้นที่ 77 จังหวัด จะร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อขอมติให้เป็นเอกภาพ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เตรียมรับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ตามที่นายสุเทพ ประกาศจะปิดกรุงเทพฯ พร้อมกับคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. ทุกรูปแบบ ทั้งจะเปิดโอกาสให้แกนนำนปช.แต่ละจังหวัด สอบถาม แสดงความคิดเห็น เพื่อนำมาสรุปเป็นมติให้นำข้อมูลไปแจ้งให้มวลชนรับทราบ เตรียมการเคลื่อนไหวต่อไป

ที่มา www.khaosod.co.th

 

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา