นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมทนายความ ได้นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทยจำนวน 29 คน ซึ่งไม่สามารถลงสมัคร ส.ส.แบบเบ่งเขตเลือกตั้งใน 29 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ มายื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยสำเนาคำฟ้องระบุว่าเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2559 ผู้ฟ้องคดีทั้ง29 คน ได้ร่วมกันยื่นคำร้องต่อผู้ถูกฟ้องคดีโดยแจ้งเหตุผลที่ไม่อาจใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ และขอให้มีมติเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่ 8จังหวัด 29 เขต โดยขอให้รับสมัครส่วนกลาง แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้พิจารณาดำเนินการทั้งยังแนะนำให้ผู้สมัครไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สมัครไม่มีชื่อเป็นผู้สมัครตามประกาศของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งหลังจากมีการรับสมัครแล้ว อันไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในคดีนี้เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 29 คน ต้องเสียสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำเนาคำฟ้องระบุอีกว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ดำเนินการเพื่อรับสมัครให้ครบทุกเขตเลือกตั้งจะทำให้เขตเลือกตั้งจำนวน29 เขต ไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ การเลือกตั้งจึงไม่เป็นไปตามหลักการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปและประการสำคัญจะทำให้การเลือกตั้งวันที่2 ก.พ.2557 ได้จำนวน ส.ส.ไม่ครบร้อยละ 95 อันจะทำให้ไม่มีสภาฯที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญได้ จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อระบบรัฐสภาและการบริหารราชการแผ่นดินอย่างร้ายแรง เพราะเมื่อไม่มีสภาฯก็ไม่สามารถที่จะเลือกนายกฯได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำเนาคำฟ้องระบุด้วยว่า แทนที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะปฏิบัติหน้าที่ของตนเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยสุจริตเที่ยงธรรม กลับออกมาแสดงเจตนาเพื่อมิให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันดังกล่าวหรือเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมิได้เป็นไปโดยเรียบร้อย โดยได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2556ด้วยข้อเท็จจริงข้างต้นจึงเห็นได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่ต้องควบคุมและจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 ก.พ.2557ย่อมต้องดำเนินการทุกขั้นตอนของการเลือกตั้งให้สำเร็จ พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ขั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะขั้นตอนการสมัครรับเลือกตั้ง แต่ผู้ถูกฟ้องคดีกลับละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้การขัดขวางการสมัครตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย และมิได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังกระทำการโดยไม่สุจริต มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีจึงเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยมาตรา 9(1) และ (2) แห่งพ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ.2552ผู้ฟ้องคดีจึงได้รับความเดือดร้อนและเสียหายโดยมิอาจหลีกเลียงได้ จึงต้องฟ้องคดีนี้ต่อศาลเพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งต่อไป
นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 กระบี่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ในวันนี้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 29 คน 29เขต มาฟ้องศาลปกครองสูงสุด ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง29คน ที่ไม่สามารถสมัครส.ส.แบบเบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยบางจังหวัดว่าที่ผู้สมัครไม่สามารถเข้าไปในสถานที่รับสมัครได้ บางจังหวัด กกต.ไม่อยู่ในสถานที่รับสมัคร ซึ่งว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว ทุกคนที่มาในวันนี้ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งนอกจากพรรคเพื่อไทยยังมีว่าที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นด้วยที่ไม่สามารถสมัครได้ ดังนั้นก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครในวันที่ 8 ม.ค.นี้ คิดว่าศาลปกครองสูงสุดน่าจะเป็นที่พึ่งได้ เพื่อให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้เดินหน้าไปได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรคงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล อย่างไรก็ตามยังคิดว่าศาลปกครองจะเป็นที่พึ่งได้