′มาร์ค′ บอกรู้ทัน ′ปู′ เสนอตั้งวงถกเลื่อนเลือกตั้ง หวังรักษาอำนาจ อัดนายกฯไม่อยู่ในฐานะเรียกใครเจรจา ไม่หวั่น ′ปึ้ง′ ชงภาพขึ้นเวที กปปส.ให้ยูเอ็น เตือนอย่าโกหกมั่นใจตบตาชาวโลกไม่ได้
เมื่อวันที่ 14 มกราคม เวลา 10.00น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ทำบุญสะเดาะห์เคราะห์หลังจากเกิดเหตุยิงที่ร้านกาแฟบริเวณที่ทำการพรรค โดยมีการถวายเพลพระ 9 รูป จากวัดเทพศิรินทร์ ที่บริเวณหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค และอดีตส.ส.พรรคเข้าร่วมทำบุญกันอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้นเวลา 10.50 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จะเชิญทุกฝ่ายร่วมหารือกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้แต่ปัญหาในขณะนี้คือผู้รักษาการณ์ตามกฎหมายคือนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ควรที่จะปรึกษาหารือให้ได้ข้อสรุปก่อนว่าสถานการณ์จัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้เป็นอย่างไรและมีอุปสรรคจริงหรือไม่ ถ้านายกฯเห็นว่าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องคุยกับใคร กกต.ก็ดำเนินการจัดการเลือกตั้งต่อ ถ้านายกฯเห็นว่ามีปัญหาก็ต้องมาตั้งหลักว่าแล้วจะจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับตามรัฐธรรมนูญอย่างไร แล้วให้ กกต.เป็นเจ้าภาพในการเริ่มต้นดำเนินการกระบวนการนั้นมากกว่า ซึ่งตนยังไม่เห็นประโยชน์ของการที่อยู่ดีๆ นายกฯจะมาเป็นหัวโต๊ะ แล้วไปเชิญคน 60-70คนมาหารือให้เกิดความขัดแย้งและปัญหาเพิ่มขึ้น
"นายกฯโยนความรับผิดชอบให้ใครไม่ได้ และที่ผ่านมานายกฯไปโกหกกับเลขาธิการสหประชาชาติอย่างนั้นแล้วจะอยู่ในฐานะอะไรที่จะเชิญคนเข้าหารือ ถ้านายกฯยังเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ยังมองไม่เห็นว่านายกฯจะอยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรกับใครได้ และที่ทำในขณะนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์กับใคร ผมไม่คิดว่าจะต้องไปทะเลาะกับใคร คนที่เขามองเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ตอบโจทย์และทำได้ยากในขณะนี้ก็พูดไปหมดแล้ว จึงอยู่ที่ว่านายกฯในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายจะประเมินว่าอย่างไร โดยผู้ที่คัดค้านการเลือกตั้งมากที่สุดคือพรรคเพื่อไทย(พท.) ดังนั้น นายกฯต้องไปคุยกับ พท. การที่นายกฯอ้างว่ากลัวจะถูกเล่นงานทางกฎหมายนั้น ความจริงพี่ชายตัวเองก็เคยทำมาแล้วทั้งนั้น ทั้งออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ ทั้งลาพักรักษาการนายกฯ ซึ่งหากนายกฯยังยืนยันว่าไม่มีอำนาจในการเลือกตั้งก็ไม่ต้องมาเชิญใครหารือ ควรปล่อยให้ กกต.ตัดสินใจ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลพยายามดำเนินการในครั้งนี้เป็นเพียงการสร้างกระบวนการขึ้นมาเพื่อให้เดินไปตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าบ้านเมืองเดินได้ยากมาก ซึ่งยังมีหลายฝ่ายพยายามช่วยแก้ปัญหา แต่นายกฯกลับใช้เป็นเครื่องมืออย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ และเกิดความรุนแรง ดังนั้นจึงต้องมาหาจุดร่วมว่าทำอย่างไรไม่ให้การเมืองกลับไปเป็นแบบเดิม ๆ
ส่วนที่มีการเสนอให้รัฐบาลไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในภาคเหนือและภาคอีสาน หากมีการปฏิวัติรัฐประหารนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไมจึงมีแนวคิดอยากแบ่งแยกประเทศ เหตุใดจึงไม่พยายามคิดให้คนมาหาแนวทางร่วมกัน การคิดแบ่งแยกอย่างนี้จึงทำให้คนมาชุมนุมจำนวนมาก รัฐบาลคงพยายามรักษาอำนาจไว้ แม้ว่าประเทศจะอยู่ในสภาพอย่างนี้ ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร เหตุใดไม่คิดหาทางออกและยอมรับสภาพความเป็นจริง
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ จะนำภาพขึ้นเวที กปปส.ให้เลขาธิการสหประชาชาติดูนั้น ว่า อยากทำอะไรก็ทำเลย อยากไปหลอกลวงใครที่ไหนก็ทำ แต่หลอกลวงคนไทยไม่ได้แล้ว ตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่นายสุรพงษ์ อย่าโกหกสหประชาชาติให้สังคมโลกเข้าใจผิดเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าจะไม่สามารถตบตาสหประชาชาติได้ และถ้าโกหกระดับโลกได้อย่างนี้ก็ไม่สามารถไปพูดคุยอะไรกับใครได้
