วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

ตร.คุม ‘ไอ้ออฟ’ ทำแผนนาทีสังหารโหด 3 ศพ ญาติดักรุมประชาทัณฑ์-ต้องปลอมตัวเป็นจนท.


วันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายฆ่า 2 เด็กชายลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กับพี่เลี้ยงสาววัย 18 ปี เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมรวม 3 ศพภายในบ้านพัก หมู่บ้านพาราไดซ์ฮิล 2 ซอยบุญสัมพันธ์ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเช้าตรู่วันที่ 11 ม.ค. ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ ต่อมาศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายประจักษ์ มาแสวง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/366 หมู่ 3 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาในคดีนี้ จนเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ม.ค.นายไพฑูรย์ มาแสวง อายุ 46 ปี อยู่ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บิดาของนายประจักษ์ พาลูกชายเดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ก่อนที่จะนำตัวมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในคดีร่วมกันลักทรัพย์, กักขังหน่วงเหนี่ยว และพยายามฆ่า ที่ก่อเหตุในท้องที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

 ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำตัวนายประจักษ์ พร้อมของกลาง เดินทางมาที่ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมี พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ รอรับตัว สอบปากคำให้การรับสารภาพว่า ในคืนเกิดเหตุตนได้ไปนั่งดื่มสุรารอรับแฟนสาวที่หน้าบ้านของนางวิไลวรรณ แต่แฟนสาวกลับผิดเวลา จึงเข้าไปในบ้านซึ่งไม่ได้ล็อกประตู เพื่อให้ น.ส.วิภาวี โทรศัพท์ไปหานางวิไลวรรณ แต่ น.ส.วิภาวี กลับโวยวายด่าทอตนจนเกิดการโต้เถียงกัน

 ด้วยความโมโหจึงบีบคอจนสลบ และกำลังจะลงมือข่มขืน แต่เด็กชายคนพี่ตื่นและวิ่งมาช่วย จึงไปหยิบมีดในครัวมาจ้วงแทงทั้งคู่จนเสียชีวิต และใช้ผ้าขนหนูรัดคอ เด็กชายลูกครึ่งน้องชาย เพราะตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแงและกลัวข้างบ้านได้ยินเสียง ก่อนขโมยทรัพย์สิน ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง กล้องวิดีโอ-ภาพนิ่ง อย่างละ 1 ตัว เหรียญทองคำแท้น้ำหนัก 7 กรัม และกระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่ง แล้วออกมานั่งรอที่หน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งแฟนสาวกลับมา จึงรีบพาขึ้นรถ จยย.ขับหลบหนีไป

 นายประจักษ์ ให้การรับสารภาพอีกว่า ระหว่างทางได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. บ้านหนองแขวะ ต.บึง อ.ศรีราชา และทิ้งซิมโทรศัพท์ของผู้ตายไว้ในห้องน้ำ ก่อนนำแท็บเล็ตไปขายที่ชลบุรี ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ และอาวุธมีดได้ทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วหนีไปกบดานที่บ้านเพื่อนใน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงโทรศัพท์หาพ่อที่อยู่ อ.ท่าม่วง ซึ่งพ่อได้เกลี้ยกล่อมขอร้องให้ตนยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตนจึงให้พ่อพาเข้ามอบตัวกับตำรวจดังกล่าว

 ซึ่งบ่ายของวันที่ 13 ม.ค. หลังประชาชนทราบข่าวว่าคนร้ายเข้ามอบตัวแล้ว และตำรวจกำลังจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จึงพากันเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 500 คน เพื่อรอดูหน้าฆาตกรรายนี้ ต่างก่นด่าสาปแช่งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหด บางส่วนได้ฮือเข้ามาในหมู่บ้านจนประตูเหล็กหน้าหมู่บ้านพังเสียหาย ท่ามกลางกำลังที่มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยกว่า 200 นาย แต่ภายหลังเกรงว่าผู้ต้องหาจะไม่ปลอดภัย ตำรวจจึงยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 จนกระทั่งเมื่อเลา 21.00 น. วันที่ 13 ม.ค. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายประจักษ์ หรือ ออฟ เดินทางเข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีกครั้งยังบ้านที่เกิดเหตุหมู่บ้านพาราไดซ์ฮิล 2 แต่ก็ยังพบชาวบ้านที่เฝ้ารอกันตั้งแต่ช่วงบ่ายรอคอยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายประจักษ์ หรือ ออฟ เดินทางมาถึง กลุ่มชาวบ้านกว่า 300 คน ที่มาดักรอต่างพากันกรูเข้ามา พร้อมด้วยเสียงด่าทอสาปแช่งต่างๆ นาๆ 

 เจ้าหน้าที่ต้องตรึงกำลังกว่า 200 นายในการทำแผนครั้งนี้ และขณะที่นำตัวนายประจักษ์ หรือ ออฟ เข้าไปทำแผนในบ้านบรรดาญาติของหนู้น้อยที่เสียชีวิตต่างพากันวิ่งเข้าชกต่อยด้วยความโกรธแค้นอย่างมาก รวมถึงพ่อและแม่ของเด็ก ภายหลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามาถนำตัวผู้ต้องหาออกจากที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากมีชาวบ้านที่ดักรออยู่ด้านนอกพร้อมที่จะรุมประชาทัณฑ์ ทั้งนี้ใช้เวลาในการนำตัวผู้ต้องหาออกจากที่เกิดเหตุกว่า 6 ชม. โดยต้องปลอมเป็นเจ้าหน้าที่แล้วพาเดินขึ้นรถออกไป

ที่มา ข่าวสด http://www.khaosod.co.th

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา