บลูมเบิร์กเสนอรัฐบาล-ฝ่ายค้านไทย ตั้งก.ก.ร่วมร่างแผนปฏิรูป แนะรัฐบาลเพื่อไทยให้สัตยาบันปราบคอร์รัปชั่น จี้ประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง แสดงความจริงใจในข้อเรียกร้อง พิสูจน์ไม่ใช่ประท้วงเพื่อฉวยคืนอำนาจให้ชนชั้นนำ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กแสดงความเห็นต่อวิกฤตการเมืองไทย ว่า ถึงเวลาแล้วที่คนสองฝ่ายในประเทศไทยจะพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาล้วนต้องการกระบวนการประชาธิปไตยที่มีความชอบธรมและมีความใสสะอาด อย่างที่กล่าวอ้าง และว่า ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยอมลดราวาศอก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
บทบรรณาธิการของบลูมเบิร์ก กล่าวว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านลั่นวาจาที่จะบอยคอต มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วันในกรุงเทพและปริมณฑล เพิ่มแนวโน้มที่จะเกิดเหตุรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ชัยชนะในการเลือกตั้งจะทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยอ่อนแอ เปิดโอกาสให้กองทัพหรือพระมหากษัตริย์เข้าแทรกแซง
ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์เสนอที่จะหารือเรื่องการปฏิรูป แต่ยืนยันว่าจะลงมือปฏิบัติได้ด้วยการออกกฎหมายรองรับ ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลหลีกทางให้แก่กลุ่ม "คนดี" ที่ไม่ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งจะเข้ามาปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยใช้เวลา 18 เดือน ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต่างเพิกเฉยต่อข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปหลายชุดระหว่างที่ครองอำนาจ
แนวคิดหนึ่งซึ่งมีผู้เสนอเมื่อเร็วๆนี้ คือ ขอให้จัดตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยสมาชิกพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงฝ่ายที่สาม เพื่อคลอดแผนปฏิรูปการเมือง เช่น การตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจรัฐ, มาตรการลดการทุจริต และเพิ่มวินัยทางการคลัง การหารือเหล่านี้สามารถทำได้ทันที คณะทำงานอาจอยู่ต่อไปจนหลังเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ก็ได้ ไม่ว่าพรรคไหนจะชนะเลือกตั้ง โดยพรรคการเมืองทั้งหลายต้องให้สัตยาบันที่จะทำตามแผนปฏิรูปของคณะทำงานชุดนี้ หรือจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหากคณะทำงานเห็นว่าจำเป็น
บลูมเบิร์กบอกว่า หากฝ่ายต่างๆมีความจริงใจในสิ่งที่ตนกล่าวอ้าง พวกเขาก็ควรมองหาจุดพบกันครึ่งทางเช่นนี้ อย่างไรก็ดี ต่อให้พวกเขาไม่ได้ทำตามข้อเสนอชุดนี้ อย่างน้อย กระบวนการที่ผ่านความเห็นพ้องต้องกันก็จะเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายถอยออกจากการเผชิญหน้า ซึ่งจะไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะเด็ดขาด ครั้งนี้ได้
บทบรรณาธิการเสนอว่า ถ้าจะให้เกิดการประนีประนอม พรรคฝ่ายค้านต้องตกลงที่จะลงเลือกตั้ง อาจมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปสัก 2 เดือนเพื่อให้อารมณ์ของทุกฝ่ายเย็นลง และให้เวลาผู้สมัครในการหาเสียง (การเลือกตั้งแทบไม่อาจทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้เลย) การชะลอเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อละทิ้งกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้าน หากแต่เพื่อให้ผลการเลือกตั้งมีความชอบธรรมมากขึ้น
@ ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ปิดล้อมกรมการบินพลเรือน เมื่อวันพุธ ที่ 22 มกราคม 2557
"การที่พรรคฝ่ายค้านยืนกรานปฏิเสธการประนีประนอม จะพิสูจน์ให้เห็นจริงดังที่คนจำนวนมากสงสัย นั่นคือ ฝ่ายค้านมีเป้าหมายหลักที่จะฉวยอำนาจกลับคืนไปให้ชนชั้นนำของไทย ผู้สูญเสียการถือครองเสียงข้างมากผ่านการเลือกตั้งให้แก่ชาวชนบทยากจนในภาคเหนือ คนไทยทั่วไปและชนชั้นนำมีเหตุผลร้อยแปดที่จะวิจารณ์การปกครองประเทศของพรรคเพื่อไทย ไม่ช้าก็เร็ว ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจะต้องเรียนรู้ที่จะเอาชนะคู่แข่งด้วยความคิดที่เหนือกว่า ไม่ใช่ด้วยการบิดเบือนระบบ" บลูมเบิร์ก ให้ความเห็น
ถ้าไม่เลือกประนีประนอม ผลลัพธ์คือ การเลือกตั้งที่วุ่นวาย หรือการรัฐประหาร ซึ่งล้วนทำให้ความขัดแย้งไม่จบลง คำพูดคลุมเครือของผู้นำเหล่าทัพที่จะเข้ายึดอำนาจนั้น ทำลายเศรษฐกิจไทย ลดบรรยากาศน่าลงทุนของประเทศ
ท้ายที่สุด บลูมเบิร์กเสนอให้กองทัพ หรือพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพลังที่ทรงอำนาจที่สุดในประเทศไทย ใช้อิทธิพลของตน ผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายพบกันครึ่งทาง ซึ่งดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างหาหนทางไม่เจอ.
ที่มา : Bloomberg
ภาพ : AFP
http://news.voicetv.co.th/thailand/94962.html