ในงานประชุมเพื่อระดมเงินบริจาคให้กับซีเรียซึ่งจัดขึ้นที่คูเวตเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.)ล่าสุด ยอดเงินบริจาคเพิ่มขึ้นเป็น 2,400 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยสหประชาชาติได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะระดมเงินทุนให้ได้ 6,500 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ชาวซีเรียกว่าครึ่งประเทศกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หลังจากที่ภาวะสงครามกลางเมืองในซีเรียยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี
นายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงการณ์ระหว่างการประชุม เพื่อระดมเงินบริจาคให้กับซีเรีย ซึ่งมีนานาประเทศรวมถึงองค์การระหว่างประเทศหลายแห่งเข้าร่วม และจัดขึ้นที่ประเทศคูเวต โดยระบุว่า ขณะนี้ ประชากรชาวซีเรียกว่าครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 9 ล้าน 3 แสนคน ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยภาวะสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในซีเรียตอนนี้ ได้ทำให้ซีเรียถอยหลังไปอีกหลายปี และนี่ถือเป็นภาระสำคัญของทั่วโลกที่จะต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดของสหประชาชาติพบว่า ขณะนี้ ประชากรในซีเรียกว่า 6 ล้าน 5 แสนคน ต้องกลายเป็นผู้อพยพ และไร้ที่อยู่อาศัย และมากกว่า 2 ล้าน 3 แสนคนได้ลงทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยนอกประเทศซีเรีย โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยตามประเทศต่างๆ และประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในซีเรียระหว่างการปะทะกันของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและกองทัพซีเรียเมื่อ 2 ปีก่อน ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 100,000 ราย
โดยการจัดงานระดมเงินทุนช่วยเหลือซีเรียในครั้งนี้ สหประชาชาติได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ต้องระดมเงินทุนให้ได้ 6,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 213,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากการประชุมสิ้นสุดลงไปเมื่อวานนี้ มีการสรุปยอดเงินบริจาคเอาไว้อยู่ที่ 2,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 78,900 ล้านบาท โดยคูเวตคือผู้ที่บริจาคมากที่สุดคือ 500 ล้านดอลลาร์ / สหรัฐอเมริกา 380 ล้านดอลลาร์ / ซาอุดีอาระเบีย 250 ล้านดอลลาร์ / นอร์เวย์ 75 ล้านดอลลาร์ / กาตาร์ 60 ล้านดอลลาร์ ทางด้านของสหภาพยุโรปหรืออียู ก็บริจาคมากถึง 753 ล้านดอลลาร์ และอังกฤษก็ได้บริจาคเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้อีก 164 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดบริจาครวมของอังกฤษมีมากถึง 985 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การจัดงานระดมเงินทุนบริจาคให้กับซีเรียจะเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ จนกว่ายอดบริจาคจะทะลุเป้า ขณะที่ ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศชื่อดัง ก็ได้ออกมาแสดงความกังวล ว่าแม้จะมีเงินบริจาคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ในตอนนี้ การขนย้ายสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวซีเรียที่เดือดร้อนนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยรัฐบาลซีเรียอนุญาตให้เรือขนส่งเพียงบางลำเท่านั้น ที่สามารถเข้าเทียบท่าได้
ขณะที่ การเดินทางภายในประเทศซีเรีย ก็ต้องเป็นไปตามเส้นทางที่รัฐบาลกำหนด ทำให้ความช่วยเหลือไปไม่ทั่วถึง นอกจากนี้ ก็ยังมีรายงานการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ต่อให้มีเงินบริจาคมากแค่ไหน แต่หากว่ารัฐบาลซีเรีย และฝ่ายต่อต้านยังไม่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง หรือออกข้อบังคับเพื่อคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปให้การช่วยเหลือ การบิรจาคดังกล่าวก็จะไร้ค่า
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายก็คาดหวังว่า การเจรจาสันติภาพซีเรีย ที่จะจัดขึ้นในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์หน้า จะมีการเจรจากันระหว่างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และจำมาซึ่งข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้
ที่มา http://news.voicetv.co.th
