'กบ ไมโคร' เขียนบทความทางการเมือง ระบุ การที่คนชนชั้นกลางเมืองลุกขึ้นยืนเป่านกหวีดแท้จริง เขาต้องการเห็นการปฏิรูปนักการเมืองและระบบการเมืองดังนั้นเป่านกหวีดหรือไม่เป่า เราต่างก็อยากเห็นและได้สิ่งที่ดีกว่าในระบบการบริหารประเทศ
นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้องนักดนตรี วงไมโคร กลับมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเมืองอีกครั้ง หลังจากประกาศหยุดเขียนเรื่องการเมืองเมื่อวันที่ 15ม.ค.ที่ผ่านมาโดยในวันนี้ (22ม.ค.) มีการโพสต์บทความ เรื่อง " เป่าไม่เป่า เราก็ไม่ต่าง "รายละเอียดดังนี้
บทความ : " เป่าไม่เป่า เราก็ไม่ต่าง "ครั้งนึงเมื่อต้นสมัยรัฐบาลเพื่อไทย ผมเคยบอกน้องคนนึงที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นว่า " ประชาชนต้องการให้นักการเมืองปฏิรูปตัวเอง " ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมวลชนในแนวทางใดก็ตาม ผมเชื่อว่ามีความคิดทีอยากเห็นนักการเมืองเป็นอย่างในอุดมคติอยู่เสมอการที่เราเห็นคนชนชั้นกลางเมืองลุกขึ้นยืนเป่านกหวีดนั้น หากตัดเรื่องของมายาคติอีนั่นโง่ไอ้นั่นงั่งออกไป เนื้อในที่แท้จริง เขาไม่ได้แตกต่างจากคนทั้งประเทศที่ต้องการเห็นการปฏิรูปตัวเองของนักการเมืองและระบบการเมืองเพียงแต่คนที่ไม่เป่านกหวีดด้วยนั้น อย่างผมคนนึง เชื่อว่าการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อระบอบประชาธิปไตยไม่โดนเว้นวรรค แต่หลักใหญ่ใจความ เราทุกคนก็คงไม่ต่างกัน เป่านกหวีดหรือไม่เป่า เราต่างก็อยากเห็นและได้สิ่งที่ดีกว่าในระบบการบริหารประเทศ
หากพิจารณามุมนี้ให้ดีๆแล้ว ประชาชนทั้งหมดไม่ว่าจะคนเมืองหรือคนชนบท ที่เชื่อในวิธีการได้สิ่งที่ดีกว่ามา แม้จะคนละแบบ ล้วนแล้วแต่ถือว่าเป็นประชาชนที่ตื่นแล้วในทางการเมืองบนวิถีการต่อสู้ที่กำลังเป็นอยู่ เราไม่อาจสลายขั้วแนวคิดของมวลชนม๊อบนกหวีดได้ เนื่องเพราะเจตนารมณ์ที่แน่วแน่นั้น เบื้องลึกที่สุด ไม่ได้แตกต่างกันกับประชาชนทั้งประเทศและหากแม้ว่าคุณสุเทพจะพ่ายแพ้ไป มวลชนกลุ่มนี้ก็ไม่สมควรที่จะเป็นผู้อกหักทางการเมือง อันเนื่องมาจากเจตนารมณ์นั้น เขาต่างก็คิดถึงประโยชน์ของชาติเช่นกันโจทย์สำคัญที่ผมอยากฝากสายลมไปถึงใครบางคนที่เกี่ยวข้องนะครับอะเจนด้าของมวลชนม๊อบนกหวีดนั้น สามารถผันมาเป็นพลังของประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ไม่ว่าจะสีใด เราจะใช้วิธีใดในการเคลื่อนย้ายอะเจนด้านั้นมารวมเป็นพลังของประชาชนที่จะร่วมกันกำหนดสร้างสิ่งที่ดีกว่าได้เป็นเส้นทางเดียวกัน ?บางทีนะครับ.....บางทีเราอาจต้องช่วยกันสร้างโมเดลแห่งการปฏิรูป"ที่ดีกว่า" ที่จะก่อกำเนิดวิถีการปฏิรูปที่ยอมรับได้จริง มั่นใจได้จริง และเห็นอนาคตจริง ออกมาให้สังคมได้เชื่อมั่นว่าหนทางนี้ไม่ได้ตีบตันจนต้องเว้นวรรคประชาธิปไตยอย่างที่เป็นอยู่สิ่งที่ผมอยากฝากให้มองเข้าไปในในความคิดพี่น้องร่วมชาติกลุ่มนี้คือพลังของเขากับเราแม้จะต่างวิธีการแต่ไม่ได้ต่างกันในเป้าหมาย หากเคลื่อนย้ายวิธีการที่แตกต่างได้ นั่นคือพลังของประชาชนที่จะสามารถคานอำนาจ ตรวจสอบ และกำหนดเส้นทางประเทศตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ผมฝากไว้ก่อนออกเดินทางไกลนะครับอรุณสวัสดิ์กับลมหนาวครับเพื่อนๆพี่น้องทุกท่าน
ไกรภพ จันทร์ดี
ที่มา http://news.voicetv.co.th/