ศรส. ออกคำสั่่งห้าม 19 แกนนำ กปปส.ออกนอกราชอาณาจักร พร้อมสั่งให้เนรเทศ นายสาธิต เซกัล ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุมว่า ศรส. เห็นสมควรแจ้งด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งเพื่อห้ามการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกับแกนนำ กปปส. ทั้งที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับไว้ 19 คน และอีก 39 คน ที่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่ง ศรส. จะได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม โดยหากปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้กักตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ของ ศรส. ในทันที โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธร ได้รายงานผลการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่นำมวลชนไปปิดล้อม กีดกัน ขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค. และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับ ผู้ที่คิดจะทำผิดอีกในอนาคตที่จะมีการเลือกตั้งอีกในเร็ววันนี้ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 คน ได้แก่ พระพุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ นายนวการ ขอนศรี นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ นายทินกร ปลอดภัย และนายปรีติ เชาวลิต และในต่างจังหวัดที่มีการกระทำผิด ศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดให้เพิ่มอีก 12 คน โดย ศรส. ได้เร่งรัดให้ดำเนินการจับกุมโดยเร็ว รวมถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดรายอื่น ๆ ให้ครบถ้วนด้วย
ส่วนการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศแกนนำ กปปส. ราย นายสาธิต เซกัล นั้น ศรส. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการร่วมกันตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพราะนายสาธิต เซกัล เป็นคนต่างด้าว สัญชาติอินเดีย ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นพำนักได้ในประเทศไทย ซึ่งตามกฎหมาย นายสาธิต จะต้องงดเว้นไม่กระทำความผิดใด ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง แต่นายสาธิต ได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของ กปปส. ขึ้นเวทีอภิปราย ปลุกระดม ยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายบ้านเมือง นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง แม้เมื่อประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิต จึงเป็นบุคคลที่กระทำการกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง บัดนี้ กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เห็นสมควรต้องสั่งเนรเทศ นายสาธิต ออกจากราชอาณาจักร ซึ่งจะได้มีการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศต่อไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ
พร้อมระบุว่า ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการให้สามารถกลับมาให้บริการแก่ประชาชนได้ตามปกติจำนวนมากแล้ว รวมถึงวันนี้เปิดทำการกลับมาบริการประชาชนได้แล้ว รวม 38 แห่ง และจะได้ทยอยเปิดสถานที่ราชการทุกแห่งให้ครบในที่สุด
ทั้งนี้ ศรส. แจ้งว่า จากการตรวจสอบของหน่วยงานด้านความมั่นคง ปรากฏมียอดผู้ชุมนุมของ กปปส. สูงสุดเมื่อคืนวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ที่ประมาณ 5,900 คน ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่องทุกวัน ศรส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่าง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก อินโฟเควสท์
ขอบคุณข่าวจาก http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/96592.html