ชนชั้นกลางบางส่วนคิดว่าสังคมไทยยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งยังมีการซื้อเสียง และคนส่วนใหญ่ก็ยังถูก "ซื้อ" ได้อยู่ แต่นักเศรษฐศาสตร์การเมืองคนสำคัญก็กล่าวว่าความคิดเช่นนี้เป็นเพียงมายาคติ ของผู้ที่มองการซื้อเสียงอย่างผิวเผินเท่านั้น การซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งจริงหรือ?
กลุ่มต่อต้านการเลือกตั้ง กำลังอ้างว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการซื้อเสียง จึงทำให้พรรคพวกของตัวเองชนะเลือกตั้งไม่ได้
แต่ศาสตราจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่าแนวคิดนี้เป็นเพียงมายาคติเท่านั้น แนวคิดที่ว่าการให้เงินก่อนเลือกตั้ง สามารถ "ซื้อ" เสียงให้นักการเมืองได้จริงนั้น เป็นแนวคิดของชนชั้นกลางที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมืองในชนบท
ศาสตราจารย์ผาสุกยกผลวิจัยที่ได้จากการลงพื้นที่สำรวจทั่วประเทศ ที่พบว่า เงินซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจเลือกของคนน้อยมาก โดยมีคนเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่คิดว่าเงินซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจ และภาคกลางและภาคใต้ก็เป็นพื้นที่การซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจมากที่สุด ไม่ใช่ภาคอีสานหรือภาคเหนืออย่างที่ชนชั้นกลางจำนวนหนึ่งคิด
ศาสตราจารย์ผาสุกยังกล่าวต่อไปด้วยว่า ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจเลือกตั้ง ที่สำคัญที่สุดคือความชื่นชอบในแบรนด์ของพรรคการเมือง
แม้ว่าการให้เงินก่อนเลือกตั้ง จะยังมีอยู่ทั่วไป แต่นักเศรษฐศาสตร์การเมืองผู้นี้ก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นการซื้อขาย เขามองว่ามันเป็นธรรมเนียมที่ทำกันมาตั้งแต่อดีต และนักการเมืองปัจจุบันก็ยังต้องทำตามธรรมเนียมนั้น แม้ว่ามันจะไม่เป็นปัจจัยช่วยให้เขาชนะเลือกตั้งได้ก็ตาม
จริงๆ แล้ว การมองการให้เงินก่อนเลือกตั้ง ว่าเป็นการ "ซื้อเสียง-ขายเสียง" นั้นก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะในการซื้อขายนั้น ผู้จ่ายเงินย่อมต้องได้รับสินค้า และผู้รับเงินย่อมต้องมอบสินค้าให้ผู้ซื้อ แต่ในการรับเงินก่อนเลือกตั้งนั้น ผู้รับเงินไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ที่จะต้องมอบ "เสียง" ของตัวเองให้กับผู้ให้เงิน และผลวิจัยก็บ่งชี้ว่าคนกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ตัดสินใจเลือกโดยที่เงินที่ได้มานั้นไม่มีผลต่อการตัดสินใจ
การให้เงินก่อนเลือกตั้งเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้มีผลต่อคะแนนเสียง แต่ก็เป็นการแสดงน้ำใจที่ขาดไม่ได้ ในแง่นี้ การให้เงินช่วงเลือกตั้งนั้นคล้ายกับการให้เงินแตะเอียวันตรุษจีน การให้เงินขวัญถุง และการให้เงินผ่านประตูเงินประตูทองในพิธีแต่งงาน การให้เงินเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการซื้อขาย แต่เป็นการให้เชิงวัฒนธรรม เพื่อแสดงน้ำใจเท่านั้น
ความคิดที่ว่า คนชนบทตัดสินใจลงคะแนนเลือกเพราะถูกซื้อเสียงนั้น จึงเป็นมายาคติของชนชั้นกลาง ที่น่าจะหมดไปได้หากชนชั้นกลางหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสังคมนอกละแวกเขตบ้าน ที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของตัวเอง
ผู้ว่าฯ ชุมพรไม่พอใจ 'กกต.' วอลค์เอาท์วงถกความพร้อม ลต.
-
[image: ผู้ว่าฯ ชุมพรไม่พอใจ 'กกต.' วอลค์เอาท์วงถกความพร้อม ลต.]
*ผู้ว่าฯ ชุมพร แสดงความเห็นไม่พอใจการทำหน้าที่ของ
กกต.และวอล์คเอาท์จากที่ประชุมหารือความ...
10 ปีที่ผ่านมา