นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกิจการเลือกตั้ง ระบุว่าได้เชิญให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไปหารือถึงข้อกฎหมายในการจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 16 ม.ค. นี้ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางไปก็จะส่งหนังสือเชิญอีกจนกว่าจะไปนั้น ว่า ในเรื่องดังกล่าว ตนได้ไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่าการกระทำของนายสมชัยอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.หรือไม่
นายเรืองไกร ยังกล่าวต่อถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึง นาย บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อปฏิเสธว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายแก้วสรร อติโพธิ แกนนำ กปปส. ไม่มีส่วนเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ระบุกับนายบัน คี มูล เพราะทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแค่ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการฯ ในวาระ 2 ตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ นั้น ถือว่าเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ บอกกันนายบัน คี มูล นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะทั้ง 2 ได้แปรญัตติตลอด โดยนายแก้วสรร ได้แปรญัตติขยายระยะเวลาในการนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมไปถึงปี47 ส่วนนายอภิสิทธิ์ ก็ได้แปรญัตติตั้งแต่ชื่อเรื่องจนไปถึงมาตรา 6และจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร
นายเรืองไกร ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายสุเทพเทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ออกมาระบุว่าจะเลิกเล่นการเมืองหลังจากนี้นั้น มีเหตุผลจากคดีต่างๆของนายสุเทพ เช่นคดีสลายการชุมนุมในปี 53 และการที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 8ได้มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 52ให้การเลือกตั้งนายก อบจ. สุราษฎร์ธานีที่นายธานี เทือกสุบรรณ ชนะการเลือกตั้งเป็นโฆฆะ และให้มีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากนายสุเทพกับพวก ได้นำผ้าขนหนูที่มีชื่อนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ไปแจกจ่ายให้ผู้สูงอายุ จำนวน200 คนจนเป็นผลให้อัยการเกาะสมุย ร้องต่อศาล และมีคำร้องท้ายคำฟ้อง ให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองของนายสุเทพเป็นเวลา 10 ปีหรือไม่.
ที่มา: http://www.dailynews.co.th