ความไม่ประสาของ"ฝ่ายประชาธิปไตย"
ในวิกฤต "มวลมหานกหวีด"ปี๊ดปี้ปี๊ด!
โดย นายขำ ตำข่าว
ยอมรับเลยว่าความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในเวลานี้ใหญ่หลวงนัก ดูท่าแล้วก็ชักจะไปกันใหญ่ จนใครต่อใครที่เคยเป็น "พลังเงียบ" ออกมาประสานเสียงตะโกนดังลั่น "พอกันทีๆๆ"
จะฝ่า "วิกฤต" ไปได้ ต้องไม่สร้าง "วิกฤต" เพิ่ม
เริ่มเรื่องก็ "หล่อ" ขึ้นมาเลยทันที
แต่ไม่รู้เสียงนุ่มๆ ทุ้มๆ แบบพระเอกหนังไทยเสียงนี้จะดังไปถึงคู่ขัดแย้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กปปส.ของ "กำนันสุเทพ", รัฐบาลของ "ท่านนายกปู", พรคประชาธิปัตย์ ของ "พี่มากกกก" เอ้ย! "พี่มาร์ค" รวมถึง มวลชนคนเสื้อแดง ของ "อาจารย์ธิดาคิดว่า..." หรือเปล่า?
ดูอย่างที่ผ่านมาเถอะ
นักวิชาการมากมายระดมสมอง เสนอทางออก แต่เหมือนว่าจะไร้ผล
ฝ่ายที่ไม่ฟังเสียงใคร หรือเสียงอะไรเลย (ยกเว้น "นกหวีด") อย่าง กปปส. รวมถึงพรรคประชาธิปปัตย์นั้นปล่อยเขาไป
แต่ที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” อย่าง รัฐบาลนายกปู, เสื้อแดงอาจารย์ธิดา ต้องกุมหลักกฎหมายให้มั่น
จะยอม จะถอย จนกลายเป็นทำผิดกฎหมายเสียเองไม่ได้
นี่เอง จึงเป็นที่มาซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงความ "ไม่ประสา"
เริ่มกันที่ "นปช.”
วันก่อนนั่งกินข้าวกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักข่าวผู้เกาะติดสถานการณ์การชุมนุมชนิดเข้มข้น ตลอดจนมันสมองระดับแถวหน้าของ "คนเสื้อแดง(อีกเฉดหนึ่ง)"
เห็นตรงกันว่า "ทำไมมันต้องขนาดนี้?"
ก็เรื่องท่าทาง ท่าที ของคนเสื้อแดงนั่งไงครัส มีเหตุปัจจัยอันใดที่ต้องเปิดห้างอิมพีเรียล ตากแอร์เย็นฉ่ำ แถลงข่าวรายวัน มีเรื่องอะไรต้องชี้แจงแถลงไข หรือตอบโต้มากมายนักหรือ
รายวันแบบนี้ดูแล้วไม่มีพลัง
ออมแรงไว้ค่อยเปรี้ยงปร้างเป็นประเด็นครั้งเดียวน่าจะเหมาะสมกว่า หาเรื่องชนถี่ยิบอย่างนี้รู้สึกว่าจะเยอะไปหน่อย ยุทธศาสตร์นะครัสไม่ใช่แก้วเบียร์ อันนั้นชนถี่ๆ ชนบ่อยๆ สนุกเอิ๊กๆ แน่ๆ
ด้านการเคลื่อนไหวรวมพลต่างๆ
เห็นด้วยกับ "มวลมหามิตรสหาย" ที่ชนแก้วเบียร์กัน...เอ่อ...ปรึกษาหารือเรื่องเหตุบ้านการเมืองกันวันนั้นว่า ควรอย่างยิ่งที่ “คนเสื้อแดง” ต้องจำกัดตัวเองอยู่ในเขตพื้นที่ จะแสดงพลัง จะช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงอย่างไรก็ทำไป
ในกรุงเทพฯ “กำนันสุเทพ” ควบคุมสถานการณ์ด้วยการยึดไว้แล้ว ต้องไม่ดำเนินการใดๆให้เกิดการเผชิญหน้า
อย่ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมพิมพ์การ์ดแจก "บัตรเชิญ" ให้ทหารขับรถถังออกจากกรมกอง
ให้เป็นเรื่องของ "กฎหมาย" เจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งบังคับใช้กฎหมายมี วันนี้ยังไม่ได้อดรนทนไปก่อน
แล้วไอ้วิธีการเย้วๆ แบบ "พร้อมมั้ยพร้อม...พร้อมมั้ยคนไทย พร้อมก้าวไป สู้ศึกอย่างคึกคะนอง” นั้น กลายเป็นยุทธวิธีที่ล้าสมัยไปแล้วครัส
"คนกรุงเทพฯ" เขาไม่เอาด้วยกับท่าทีแบบนี้
ให้ "พลังเงียบ" ที่ออกมาตะโกน "พอกันทีๆๆๆ" จัดการเถอะ
เขามีกิจกรรม มีลูกเล่น แพรวพราวดึงดูดกว่า อย่างน้อยก็สามารถทำให้คนกรุงเทพฯออกมาถ่ายรูป กับแสงเทียนสว่างไสว แล้วโพสต์อวดอย่างครึกครื้นในเฟสบุ๊กแหละน่า
ที่สำคัญ ซึ่ง "คนเสื้อแดง" ได้ทำพลาดไปแล้ว และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก คือการไปถอดเสื้อแดงออกแล้วเปลี่ยนมาใส่เสื้อขาว จัดกิจกรรม "จุดเทียนเขียนสันติภาพ"
โอ้โหฯ อันนี้พูดไม่ออกเลยครัส ประทานโทษเถอะ เห็น “ขวัญชัย ไพรพนา” แกนนำคนรักอุดร ใส่เสื้อขาวแล้วเป็นมึน
เชื่อว่าเหล่าขบวนการ "พลังเงียบ” ที่บอกว่าเป็น "ขั้วที่ 3" ก็คงเช่นกัน
เขาก็หวั่นๆว่าจะถูกป้ายสีแดง หวั่นๆว่าถูกข้อครหาทักษิณซื้ออยู่แล้ว นี่คนเสื้อแดงเล่นเปลี่ยนมาเป็นเสื้อขาว "เข้าทาง" อีกฝ่าย “เต็มๆตรีน”
จะจัดก็จัดไปเถอะครัส “จุดเทียน”
เอาเทียน “พรรรษา” เมืองอุบลฯ มาใช้ให้มันพรึบพรั่บสว่างไสวไฉไลไปเลยทั่วประเทศก็ย่อมทำได้
แต่คนเสื้อแดงก็ต้องยืนยันความเป็นเสื้อแดง
หาใช่เปลี่ยนเป็นเสื้อขาว
เพราะ "ขั้วที่ 3" ผู้ออกมาด้วยความ “บริสุทธิ์ใจ” ไม่อยากเห็นความรุนแรง เอาเลือกตั้ง ไม่เอารัฐประหาร จะถูกเหมาะรวมว่าเป็นพวกคุณ และแน่นอน จะไม่มีใครอยากออกมาจัดกิจกรรมอีก อย่างนี้ก็จะเสียแนวร่วมไปโดยปริยาย
ท่องไว้ครับ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย
เราอยู่กันด้วยความหลากหลายทางความคิด ไม่ใช่แค่ 2 ขั้ว
อีกหนึ่งคือ "รัฐบาล"
อย่างที่นักวิชาการทั้งหลายได้เสนอไปแล้ว วิกฤตการเมืองครั้งนี้ต้องยึดหลัก "กฏหมาย" ให้มั่น
จะให้ "มวลมหาประชาชน" บีบบังคับเอาโน่นเอานี่ แล้วรัฐบาลยอมถอยไปเรื่อยๆ นั้นไม่ได้
เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ "วิกฤต" คลี่คลายแล้ว ยังเป็นการสร้าง "วิกฤต" ใหม่
คิดดูสิว่า ต่อไปถ้าใครอยากได้อะไรก็จะรวม "มวลมหาประชาชน" ออกมา เป่านกหวีด ปี๊ด ปี้ ปี๊ด บังคับเอาโน่นเอานี่ ทำตัวเหมือน “อันธพาลทางการเมือง” ดังคำของนักวิชาการบางท่าน
ถ้ายอมให้ละเมิดกฎหมายได้ ต่อไปจะกลายเป็น "บรรทัดฐาน" ในอนาคต
ไม่ได้ดั่งใจ-ปิด ไม่ได้ดั่งใจ-ยึด ไม่ยอมให้-ปิด ไม่ยอมให้-ยึด
ปิดๆยึดๆ กันสนุกสนานกันเหมือนสวนสนุก
อย่างเรื่องการเป็น “รัฐบาลรักษาการ” และ “การเลือกตั้ง” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ 2556 ประกาศวันเลือกตั้งชัดแล้วครัส
และตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 รัฐบาล “ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป" จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ประชาชนเลือก “ผู้แทน” ของตนขึ้นมา
การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะเลื่อนโดยอ้างเหตุภัยพิบัติ เหตุวินาศสันตะโร โกลาหลวุ่นวาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ "คาดการณ์" ยังไม่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้
จัดเลือกตั้งก่อน เกิดแล้วค่อยว่า
แต่ดูจากท่าทีล่าสุดของรัฐบาล ซึ่งเชิญหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเรื่องการเลือกตั้ง ราวกับว่าจะหาทางออกจากปัญหานี้ด้วยการ “เลื่อน”
ถ้าเป็นจริง ก็ให้ละเหี่ยใจ
อะไรจะยอม "ถอยสุดซอย" หรือ "ถอยลงคลอง" ได้ขนาดนี้
"...อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ..." ฟังเพลง “แสนแสบ” เสียงร้องต้นฉบับ ชรินทร์ นันทนาคร แล้วก็ได้ข้อคิด
รู้ว่า "คลอง" น้ำ "หมอง"
ต่อให้ “อกกลัดหนอง” แค่ไหนต้องไม่ลง “น้ำที่หมอง” เป็นอันขาด
ที่มา http://www.khaosod.co.th/