วันที่ 14 ม.ค. ที่บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการในตลาดยิ่งเจริญ จัดกิจกรรมจุดเทียน "ไม่เอาม็อบ ไม่เอารัฐประหาร เอาเลือกตั้ง" มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน โดยส่วนใหญ่สวมเสื้อสีขาว รวมตัวกันชูป้ายข้อความต่างๆ อาทิ เอาเลือกตั้ง 2 ก.พ., Respect my vote, Keep walking to vote, เอาเลือกตั้ง ไม่เอาเทือกตั้ง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังนำผ้าใบสีขาวมาให้ประชาชนเขียนแสดงความคิดเห็น อาทิ ทำตามพ่อ ต้องไปเลือกตั้ง, ต้องทำมาหากินอย่างความสงบ และอย่างประชาชนที่มีกฎหมาย, ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง, เอากรุงเทพคืนมา หยุดปิดกรุงเทพ เป็นต้น
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดได้ร้องเพลงชาติพร้อมกัน ก่อนพร้อมใจกันตะโกนว่า "ไชโย" 3 ครั้ง และคำว่า "เลือกตั้ง" อีกหลายครั้ง ต่อมาทั้งหมดร่วมกันจุดเทียนและตะโกนพร้อมกันหลายครั้งว่า "คนค้า คนขาย ไม่เอาม็อบ ไม่เอารัฐประหาร เอาเลือกตั้ง ไม่เอาเทือกตั้ง" ก่อนนำเทียนมาตั้งบริเวณริมฟุตปาธ
นายวรวุฒิ ปิมเกษม อายุ 45 ปี ตัวแทนจัดกิจกรรม เผยว่า ตนประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าอยู่ในตลาดยิ่งเจริญ ได้รับผลกระทบทั้งขายของไม่ได้และเดินทางไม่สะดวก จึงรวมตัวพูดคุยกับผู้ประกอบการในตลาดว่าจะจัดกิจกรรมจุดเทียนขึ้นมา ก่อนทำใบปลิวชักชวนไปแจกในตลาด เพราะอยากสื่อให้รู้ว่าพวกเราได้รับผลกระทบอย่างไร และอยากให้เขาหยุดการชุมนุม เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ และอยากให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดแล้ว หลังจากนี้เราจะนัดจุดเทียนหน้าตลาดทุกวัน ในเวลา 18.00 น.
ด้านแม่ค้ารายหนึ่งที่ค้าขายในตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบโดยตรงคือเรื่องการเดินทาง ส่งผลให้การค้าขายแย่ลงการออกมาจุดเทียนครั้งนี้ เพื่อต้องการให้มีการเลือกตั้ง ไม่ต้องการความรุนแรง และต้องการให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ให้ครบ 4 ปี
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในเขตตลาดยิ่งเจริญ บอกว่า ได้รับผลกระทบอย่างหนักเรื่องการจราจร และคิดว่าคนกรุงเทพฯทั้งหลายคงทนกับปัญหานี้ได้ไม่นาน การที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าต้องการเลือกตั้งนั้น เพราะไม่เห็นด้วยกับเทือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งต้องมาจากประชาธิปไตย เรามีสิทธิเท่าเทียมกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาธิปไตยจะกลับมา
ส่วนแม่ค้าขายไก่สดในตลาดยิ่งเจริญอีกราย กล่าวว่า การค้าขายแย่ลงมาก ที่ออกมาแสดงจุดยืนโดยการจุดเทียนเพื่ออยากให้มีการเลือกตั้ง และต้องการให้รัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาทำงานต่อจนครบวาระ
ที่มา http://www.khaosod.co.th