วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"ยิ่งลักษณ์"ไม่ขอชนดีเบตสภาปฏิรูป ชวน กปปส.ดีเบตร่วมเวทีกลาง



น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ท้าดีเบตเรื่องการปฏิรูปประเทศว่า ตนคงไม่ใช่คู่ดีเบตกับนายสุเทพ เพราะเวทีที่เสนอนั้น เป็นเพียงข้อเสนอที่จะรับฟังข้อคิดเห็นและถือเป็นเวทีสาธารณะ อยากให้มีการดีเบตในเวทีสาธารณะมากกว่า และถ้าจะให้ดีก็อยากเชิญกลุ่ม กปปส.มาดีเบตในสภาปฏิรูป เพราะถือเป็นเวทีสาธารณะกลางมากกว่า
          เมื่อถามว่า นายสุเทพระบุคณะกรรมการ 8 คนเป็นคนที่นายกฯ ควบคุมสั่งการได้ สุดท้ายเป็นระบอบทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในข้อเสนอคณะกรรมการทั้ง 11 คนนั้น เป็นเพียงผู้ที่จะบอกว่าสัดส่วนใน 2,000คนนั้นประกอบด้วยใครบ้าง คณะกรรมการชุดนี้ไม่มีหน้าที่ที่จะกำหนดว่าจะเป็นใครบ้าง เพียงแต่ให้เกิดความแน่ใจว่า ในกลุ่มที่จะเข้ามาเพื่อคัดเลือกใน 2,000 คนแรกนั้นมีการกระจายในทุกกลุ่ม และในทุกสาขาอาชีพเท่านั้น และในทุกสาขาอาชีพต้องเสนอตนเองเข้ามา เพื่ออาสาที่จะเป็นผู้แทนในเวทีสภาปฏิรูปประเทศและการเลือกก็ไม่ใช่ทั้ง 11 คน แต่ 2,000 คนนั้นจะเป็นผู้เลือกคณะที่เข้ามาทำงานในสภาปฏิรูปฯ จำนวน 499 คน ทั้งหมดจะไม่เกี่ยวข้องกับ11 คนแรกที่ได้พูดถึง
         "ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเวทีนี้เป็นเวทีสาธารณะจริงๆ ทางเจ้าหน้าที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกเท่านั้น เพื่อให้เกิดกลไกและดำเนินการ ส่วนการคัดเลือกจะขึ้นอยู่กับผู้เสนอตัวเข้ามาสมัคร ซึ่งจะเป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่ม เช่น สาขาอาชีพของอุตสาหกรรม ทางกลุ่มอุตสาหกรรมต้องคัดกันเข้ามาว่า ใครจะเป็นตัวแทนที่จะเข้ามา ฉะนั้น ทั้ง 11 คนไม่สามารถไปเลือกคนที่มาเป็นสภาปฏิรูปฯได้เลย" นายกฯ กล่าว
          เมื่อถามว่า มั่นใจว่าเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดเช่นนั้น เป็นเพียงข้อเสนอที่พร้อมจะรับฟัง เพราะถ้าเราไม่มีข้อเสนอตั้งต้น เป็นกรอบโครงก็จะไม่สามารถผลักดันให้ไปสู่แนวทางปฏิบัติได้ เพราะเราได้รับฟังข้อคิดเห็นจากหลายคนและหลายเวที ยังไม่มีแผนลงลึกที่จะปฏิบัติ จึงเสนอแนวทางดังกล่าวขึ้นมาและยินดีที่จะรับฟัง และถ้าแผนดังกล่าวเห็นชอบได้เร็ว เราก็สามารถประกาศได้เร็ว แต่ถ้ายังมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกัน เราต้องฟังไปเรื่อยๆ วันนี้เราอยากให้ประเทศมีทางออก และเกิดความสบายใจแก่ทุกฝ่าย เพราะในส่วนนี้ แม้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็สามารถต่อได้ หรือจะปรับเปลี่ยนก็ทำได้อยู่ วันนี้เราทำได้เต็มที่ในช่วงที่อยู่ จนกว่าจะมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
          เมื่อถามว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯเริ่มมีการใช้กระสุนจริง โดยเจ้าหน้าที่ถูกยิงและกลุ่ม กปปส.ไปปิดล้อมบ้านของนายกฯ ที่ซอยโยธินพัฒนา 3จะเพิ่มหรือขยายพื้นที่ในส่วนของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า จากมติ ครม.เมื่อ วันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา มีเพียงการขยายเวลา ส่วนพื้นที่ยังเป็นไปตามเดิม ส่วนขั้นตอนต่างๆนั้นต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณา แต่ยืนยันว่าทุกอย่างได้เน้นย้ำและสั่งการเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ให้ดำเนินการตามหลักสากลและตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
          ต่อข้อถามว่า สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น ถึงขนาดใช้อาวุธจริง จะเกิดความวุ่นวายมากขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการและพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งหมดขอเรียนว่าตำรวจได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอน รัฐบาลไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น อยากขอร้องทุกฝ่าย การทำงานทั้งหมดเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความอดทน วันนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกันก่อน และจะมีการชี้แจงจาก ศอ.รส.อย่างเป็นทางการ
          เมื่อถามว่า เป็นห่วงท่าทีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บางคนหรือไม่ ที่อาจทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้ แต่ด้วยหน้าที่ของแต่ละคนแล้ว จะต้องทราบบทบาทของตนเองว่าควรมีบทบาทอย่างไร วางตัวเป็นกลางอย่างไรและต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเองอย่างไร
          เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ในช่วงหาเสียงจะเกิดเหตุรุนแรงและวุ่นวายต่อเนื่อง นายกฯกล่าวว่า ไม่อยากเห็นภาพและสถานการณ์เช่นนั้น ก็ต้องขอความร่วมมือและขอร้องว่าสถานการณ์เราอยู่อย่างนี้มา 2 เดือนกว่าแล้ว เราเจ็บปวดกันมามาก ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนทำตามหน้าที่ของตนเองและปฏิบัติตามข้อกฎหมาย
          เมื่อถามว่า สถานการณ์เช่นนี้ยังมั่นใจในกระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ขอให้ผ่านขั้นตอนไปทีละขั้นก่อนดีหรือไม่ ทั้งหมดเราต้องยึดหลักข้อกติกาและกฎหมายกำหนด ที่ผ่านมาเราเข้าใจและเห็นใจข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ในส่วนของรัฐบาลเราได้พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่ข้อเรียกร้องบางอย่างไม่รู้จะปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร วันนี้จึงเสนอเวทีสภาปฏิรูปประเทศออกมาแล้ว ถ้ามีความเห็นไม่ตรงกัน ก็น่ามาพูดคุยกัน แต่เราไม่สามารถรับข้อเสนอของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ฟังส่วนรวม จึงต้องเป็นหน้าที่ของเวทีสาธารณะที่ต้องมานั่งพูดคุยกัน อยากขอเชิญชวนผู้ชุมนุมมาใช้เวทีดังกล่าวเพื่อหาทางออก
          ผู้สื่อข่าวถามว่า มีบางฝ่ายคิดว่าข้อเสนอต่างๆ ของรัฐบาลมักจะสายเกินไป นายกฯกล่าวว่า อยู่ที่คนมองและคิด ที่ผ่านมารัฐบาลทำอย่างเต็มที่ จะถามว่าสายหรือไม่สาย คงตอบไม่ได้แต่สิ่งที่ตนพูดคือเราพยายามอย่างเต็มที่และต้องการเห็นทางออกจริงๆ ถ้ามัวแต่คิดว่าสายหรือไม่สาย ก็จะกลายเป็นว่ามันไม่จบ วันนี้เราดูตามเหตุการณ์และรับฟังจากทุกฝ่าย รัฐบาลไม่ได้อยากจะออกไป แต่หากมีเวทีที่สามารถสรุปกันได้ เราก็ยินดีอยู่แล้ว
          เมื่อถามว่า ดูเหมือนขณะนี้นายกฯจะอัดอั้นกับสถานการณ์การเมือง คิดว่าจะประคับประคองตนเองได้นานแค่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ที่จะต้องทำ เราต้องประคับประคองอย่างดีที่สุด และหน้าที่ที่ต้องประคับประคองภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เราต้องพยายามทำอย่างดีที่สุดและทำอย่างละมุนละม่อม
          เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าวันนี้ช้ำไปทั้งตัวแล้วหรือยังกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาคลอเบ้าว่า "คงไม่ต้องถามความรู้สึกตัวเองอีกแล้ว วันนี้ได้เลยความรู้สึกของตัวเองไปแล้ว วันนี้เรามีหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตย เรามีหน้าที่ประคับประคองให้ประเทศหาทางออกและเดินไปข้างหน้าได้ ถึงแม้ว่าถ้าเราเทียบเหมือนถนน เราเห็นถนนที่ขรุขระมีขวากหนาม แต่ยังดีกว่าที่เราจะเลี่ยงถนนที่เรามีอยู่เส้นเดียวที่ต้องเดินแล้วไปเดินในป่า ซึ่งไม่รู้ว่าตรงนั้นจะเป็นทางลัดหรือเป็นอะไร "จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินเลี่ยงไปปฏิบัติภารกิจทันที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388040353&grpid=03&catid=&subcatid=

เข้าดูมากที่สุด 7 วันที่ผ่านมา